7 เมษายน 63 ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข่าวมีการนำน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาแบ่งใส่ขวดแจกประชาชน หรือทำอุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรืออุโมงค์แสง UV เพื่อฆ่าเชื้อโรคนั้น
ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความห่วงใย และได้ตรวจสอบแล้วพบว่า น้ำยาที่นำมาแบ่งบรรจุนั้นได้รับอนุญาตเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ใช้กับพื้นผิวหรือวัสดุ
เพื่อความปลอดภัย อย. จึงขอแนะนำประชาชน หากได้รับน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่แบ่งใส่ขวด ขอให้ตรวจสอบว่ามีฉลากหรือไม่ หากไม่มีให้สอบถามผู้ให้ว่าคือน้ำยาอะไร มีวิธีใช้อย่างไร แล้วทำฉลากให้ชัดเจน ระบุชื่อน้ำยาฆ่าเชื้อโรค วิธีการใช้ที่ถูกต้อง แล้วเก็บไว้ในที่มิดชิด ห่างมือเด็ก ไกลจากน้ำดื่มบรรจุขวด เพราะอาจพลั้งเผลอหยิบมาดื่ม คิดว่าเป็นน้ำและดื่มเข้าไป จนได้รับอันตรายตามที่เป็นข่าวมาแล้ว
ส่วนกรณีอุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคนั้น อย. ขอย้ำว่าส่วนใหญ่น้ำยาที่นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขออนุญาตใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวหรือวัสดุ ไม่สามารถนำมาใช้กับผิวหนังหรือร่างกายมนุษย์ได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบที่อาจทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา ดังนั้น การนำไปฉีดพ่นบนร่างกายมนุษย์เป็นอันตราย ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง และเช่นเดียวกันระบบฆ่าเชื้อโควิดด้วยแสง UV เหมาะสำหรับฆ่าเชื้อโรคในห้องและอุปกรณ์ต่าง ๆ เท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับมนุษย์และสัตว์เลี้ยง เพราะจะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
ภญ.สุภัทรา กล่าวอีกว่า การฆ่าเชื้อโรคบนร่างกายมนุษย์โดยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและแสงยูวี องค์การอนามัยโลก ไม่แนะนำให้ใช้ วิธีที่ทำได้ง่ายและได้ผลดี คือ อาบน้ำ สระผม ทำความสะอาดร่างกายทันทีเมื่อกลับเข้าบ้าน และให้นำเสื้อผ้าไปซักด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าในน้ำร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 70-90 องศาเซลเซียส จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง
- ภูเก็ตออกคำสั่ง ไม่สวมหน้ากาก – ส่อทำโรคแพร่กระจาย ฝ่าฝืนปรับ 2 หมื่น
- จับจริง! 623 รายผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ระหว่างวันที่ 3 – 6 เม.ย. 63
- โควิด-19 ทำนายกฯอังกฤษ ทรุด ต้องรักษาตัวในไอซียู