
‘อิสราเอล’ เป็นประเทศที่แรงงานไทย นิยมเดินทางไปทำงานเป็นอันดับ 2 รองจากไต้หวัน โดยปัจจุบันมีแรงงานอาศัยอยู่ในอิสราเอล ทั้งหมดราว 30,000 คน โดยอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงกว่า 5,000 คน
ขณะที่ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันระหว่างอิสราเอล กับฮามาส ดังนี้
1.กรณีที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทํางานในต่างประเทศ การเยียวยานี้เป็นไปตามสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนดังกล่าว โดยเฉพาะการเยียวยาในกรณีของผู้ที่เดินทางกลับประเทศเนื่องจากภาวะสงคราม
นอกจากนี้ยังรวมถึงกรณีผู้พิการและผู้เสียชีวิต โดยค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศจะไม่เกิน 40,000 บาท (แต่ในกรณีของอิสราเอล ทางการอิสราเอลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนาด้วย)
2.นายกรัฐมนตรี ให้รัฐบาลไทยรับผิดชอบค่าบัตรโดยสาร สำหรับแรงงานไทยที่กำลังหาทางกลับจากอิสราเอล โดยเงินจะเป็นส่วนของการช่วยเหลือในการกลับบ้าน เพื่อความปลอดภัย
3.โรงแรมเอสซีปาร์ค (หนึ่งในธุรกิจของครอบครัวชินวัตร) ร่วมสนับสนุนรัฐบาลในรูปแบบค่ารถรับส่ง ค่าห้องพัก และอาหารสําหรับแรงงานไทยที่อพยพ ซึ่งต้องการพักในกรุงเทพฯ ก่อนกลับภูมิลําเนา
นอกจากนี้ เอไอเอส ได้บริจาคซิมสนับสนุนภารกิจแก่เจ้าหน้าที่ และ เอไอเอส ทรู ดีแทค ได้ช่วยส่งข้อความข่าวสารทาง SMS ให้กับพี่น้องคนไทยในอิสราเอลที่ใช้บริการโรมมิ่ง เพื่อช่วยกระจายข่าวสารให้กว้างขวางขึ้น ทั้งนี้ หากเอกชนรายใดมีความประสงค์จะสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ สามารถติดต่อมายังรัฐบาลได้ โดยยืนยันจะทํางานตลอด 24 ชม. เพื่อให้คนไทยได้กลับบ้านสู่ครอบครัว