วันนี้ (7 ก.พ.68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้นำเสนอแผนงานที่จะเก็บเจ้าหน้าที่หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ไว้ไม่เกิน 300 ราย จากจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของสำนักงานทั่วโลกที่มีอยู่กว่า 10,000 ราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปรัฐบาลครั้งใหญ่
แผนดังกล่าวระบุว่า จะมีเจ้าหน้าที่หน่วยงาน USAID เพียง 294 รายเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานต่อ ซึ่งมีเพียง 12 รายในสำนักงานแอฟริกาและ 8 รายในสำนักงานเอเชีย
โดยทรัมป์ให้เหตุผลในการลดจำนวนครั้งนี้ ว่า “หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของฯสหรัฐ (USAID) กำลังผลาญงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ และจำเป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับนโยบายตามลำดับความสำคัญของประธานาธิบดี”
ขณะที่ เจ. ไบรอัน แอตวูด หัวหน้าองค์กร USAID มานานกว่า 6 ปี กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ของสหรัฐฯ ว่า “นี่เป็นเรื่องที่อื้อฉาวมาก การเลิกจ้างบุคลากรมากขนาดนี้ คล้ายกับเป็นการฆ่าหน่วยงานที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้คนนับสิบล้านคนทั่วโลกต้องเสียชีวิต”
ทั้งนี้ องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) เป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งรับผิดชอบต่อการสนับสนุนระหว่างประเทศพลเรือน และความช่วยเหลือด้านการพัฒนา นับเป็นหน่วยงานช่วยเหลืออย่างเป็นทางการที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีจำนวนเจ้าหน้าที่ประมาณ 10,000 คน โดยมีฐานปฏิบัติงานในกว่า 60 ประเทศ และดำเนินการในอีกกว่า 10 ประเทศ
อ้างอิงจากข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า ปี 2023 สหรัฐฯ ใช้งบประมาณกับองค์การ USAID สูงถึง 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท) นี่จึงกลายเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทรัมป์ต้องการปฏิรูปครั้งใหญ่
ขอบคุณข้อมูล : AP News
https://apnews.com/article/trump-usaid-layoffs-7e0a159d8a419c4c9388ab02e8259f23