
(29 ม.ค.68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดการกับปัญหาชาวยิว โดยให้คำมั่นว่าจะเนรเทศกลุ่มนักศึกษาที่เข้าร่วมประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ พร้อมเตรียมถอดถอนวีซ่ากับกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวด้วย

ในเอกสารคำสั่งของทรัมป์ ระบุว่า “กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินคดีทันที กับผู้ที่ข่มขู่ก่อการร้าย สร้างความเสียหาย หรือใช้ความรุนแรงต่อชาวยิวอเมริกัน พร้อมใช้เครื่องมือทางกฎหมายทั้งหมดที่มีอยู่และเหมาะสม”
“นักเรียนชาวยิว ต้องเผชิญกับการถูกเลือกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง การปฏิเสธการเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกในมหาวิทยาลัย รวมถึงห้องสมุดและห้องเรียน และการข่มขู่ คุกคาม และการทำร้ายร่างกาย”

ซึ่งในเอกสารคำสั่งที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาวฉบับนี้ ยังรวมถึงการเตรียมจะยกเลิกวีซ่าสำหรับนักศึกษาทั้งหมด ที่เข้าร่วมการประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ด้วย เพราะขณะนี้ในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยผู้คนหัวรุนแรง
“การปราบปรามครั้งนี้ จะขยายไปยังผู้ถือวีซ่านักเรียนทั้งหมด ที่เข้าร่วม “การประท้วงสนับสนุนญิฮาด” ในมหาวิทยาลัยด้วย” เพราะถือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ
“ถึงบุคคลต่างชาติทุกคนที่เข้าร่วมการประท้วงสนับสนุนญิฮาด เราขอแจ้งเตือนคุณว่า เมื่อถึงปี 2025 เราจะตามหาคุณ และเนรเทศคุณออกจากประเทศ”

ทั้งนี้ คำสั่งฉบับนี้ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ยังกำหนดให้ผู้นำทุกหน่วยงาน และกระทรวงฯ ต้องส่งข้อเสนอให้ทำเนียบขาวเกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมายทั้งทางอาญาและแพ่งที่จะนำมาใช้ต่อต้านการเหยียดชาวยิว ภายใน 60 วัน
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมปาเลสไตน์ ได้กล่าวว่า “พวกเขาไม่ได้สนับสนุนกลุ่มฮามาส หรือต่อต้านชาวยิวแต่อย่างใด เพียงแต่ประท้วงเพื่อต่อต้านการโจมตีทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก”
ขอบคุณข้อมูล : Al Jazeera