วานนี้ (28 เม.ย. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า เกิดเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในพื้นที่ประเทศสเปน และโปรตุเกส ส่งผลให้เกิดผลกระทบไปทุกภาคส่วน อาทิ รถไฟไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ส่งผลให้มีผู้ติดค้างหลายพันคน รวมถึงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต และไม่สามารถเข้าถึงเงินสดจากตู้ ATM ทั่วคาบสมุทรไอบีเรียได้
ด้าน เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวว่า ผ่านไปเกือบ 11 ชั่วโมงแล้วที่ระบบไฟฟ้าขัดข้อง ผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลยังคงพยายามหาสาเหตุอยู่
“เราไม่เคยประสบปัญหาระบบล่มสลายโดยสมบูรณ์เลย” พร้อมให้รายละเอียดว่า เมื่อเวลา 12.33 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ระบบไฟฟ้าของสเปนสูญเสียพลังงานไป 15 กิกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับ 60% ของความต้องการไฟฟ้าทั้งประเทศ ในเวลาเพียง 5 วินาที
ในเวลาต่อมา ศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติโปรตุเกส ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า ไฟฟ้าดับเกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์ ขณะที่ เทเรซา ริเบรา รองประธานบริหารฝ่ายส่งเสริมพลังงานสะอาดของคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า ไฟฟ้าดับครั้งนี้เป็น “เหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในยุโรปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”
ซึ่งเหตุการณ์ไฟดับในครั้งนี้ ส่งผลให้สำนักงานต่าง ๆ ปิดทำการ และการจราจรติดขัดในกรุงมาดริดและลิสบอน ขณะที่รถไฟในทั้ง 2 ประเทศหยุดให้บริการชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่บริการฉุกเฉินและพนักงานรถไฟในสเปน ต้องอพยพผู้คนราว 35,000 คนจากรถไฟกว่า 100 ขบวนที่อยู่บนรางรถไฟเมื่อไฟฟ้าดับ
อย่างไรก็ตาม ภายในเวลา 22.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือภายหลัง 10 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุไฟดับ สถานีรถไฟย่อยของสเปน 62% สามารถกลับมาใช้งานไฟฟ้าได้อีกครั้ง และความต้องการไฟฟ้า 43.3% ได้รับการตอบสนองแล้ว ขณะเดียวกัน ผู้ดำเนินการระบบส่งไฟฟ้าโปรตุเกส กล่าวว่า ได้กลับมาจ่ายไฟให้กับสถานีย่อย 85 แห่งจากทั้งหมด 89 แห่งของประเทศแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ไฟดับรุนแรงครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในยุโรป หลังจากในปี 2003 เกิดปัญหาสายส่งไฟฟ้าพลังน้ำระหว่างอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ไฟดับนานประมาณ 12 ชั่วโมง และในปี 2006 เครือข่ายไฟฟ้าในเยอรมนีรับภาระเกิน ทำให้ไฟฟ้าดับในบางส่วนของประเทศ รวมถึงในฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ออสเตรีย เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์
ขอบคุณข้อมูล : The Guardian
อัปเดตล่าสุด (29 เม.ย. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า บริษัทผู้ดำเนินการไฟฟ้าในสเปน Red Eléctrica ออกประกาศว่า แหล่งจ่ายไฟฟ้าในประเทศมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ กลับมาใช้งานได้แล้ว และสถานีย่อยทั้งหมดในเครือข่ายก็มีแรงดันไฟฟ้าแล้ว
“99.16% ของความต้องการไฟฟ้าบนคาบสมุทรได้รับการฟื้นคืนแล้วด้วยการผลิตไฟฟ้า 21,265 เมกะวัตต์ สถานีย่อยทั้งหมดในโครงข่ายส่งไฟฟ้าทำงานได้ตามปกติ เราจะดำเนินการฟื้นฟูต่อไป” บริษัทกล่าว
แม้จะมีความคืบหน้า แต่สถานการณ์ฉุกเฉินจะยังคงมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร ทั้งนี้การประเมินเบื้องต้นชี้ว่า เหตุไฟฟ้าดับ อาจเกิดจากความไม่สมดุลในระบบจำหน่ายไฟฟ้า แต่การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป
ขอบคุณข้อมูล : Politico