
อะไรที่เป็นมรดกจากรัฐบาลชุดเดิม ทรัมป์ไม่เอาไว้..
วานนี้ (21 มี.ค. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศเพิกถอนสถานะทางกฎหมายของผู้อพยพจากประเทศคิวบา เฮติ นิการากัว และเวเนซุเอลา ซึ่งเดินทางเข้าสหรัฐฯ ภายใต้โครงการของรัฐบาลชุดเดิมของโจ ไบเดน ที่เรียกว่า CHNV โดยผู้อพยพกลุ่มนี้จะต้องเดินทางออกจากประเทศเอง หรือถูกจับกุมและส่งกลับประเทศโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ

ซึ่งมาตรการดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งเป็นเวลา 30 วันหลังจากวันที่ 25 มีนาคม ตามประกาศของรัฐบาลกลาง โดยการเพิกถอนสถานะดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้อพยพที่เข้ามาภายใต้โครงการนี้สูญเสียใบอนุญาตทำงาน และการคุ้มครองจากการถูกเนรเทศครั้งนี้

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ระบุว่า หากผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบไม่เดินทางออกจากประเทศภายใน 30 วัน พวกเขาจะถูกจับกุมและส่งตัวกลับประเทศ พร้อมแนะนำให้ใช้แอปพลิเคชัน CBP Home เพื่อลงทะเบียนขอเดินทางกลับประเทศด้วยตนเอง พร้อมยืนยันว่า DHS มีอำนาจในการควบคุมตัวและเนรเทศผู้อพยพที่เดินทางเข้ามาภายใต้โครงการนี้ แม้ก่อนครบกำหนด 30 วัน โดยกลุ่มที่ถูกจัดลำดับความสำคัญในการจับกุมจะรวมถึงผู้ที่ไม่ยื่นขอสถานะทางกฎหมายอื่น ๆ เช่น การขอลี้ภัยหรือกรีนการ์ด
ทริเซีย แม็กลาฟลิน โฆษกของ DHS ระบุว่า ผู้อพยพที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐฯ ผ่านโครงการ CHNV “ได้รับการตรวจสอบอย่างหยาบ ๆ” และมองว่าโครงการนี้ส่งผลกระทบต่อแรงงานชาวอเมริกัน

สำหรับ โครงการ CHNV ถูกจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลไบเดนเพื่อให้โอกาสในการอพยพอย่างถูกกฎหมายแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐฯ และลดจำนวนการเข้าเมืองผิดกฎหมายผ่านชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ภายใต้โครงการนี้ มีผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งสิ้น 532,000 คน แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีจำนวนเท่าใดที่สามารถเปลี่ยนสถานะเป็นผู้พำนักถูกกฎหมายได้
ขอบคุณข้อมูล : The New York Times