แค่เห็นภาพก็สยองจมูกตัวเองแล้ว.. ไม่อยากคิดเลยหากตัวเองต้องเป็นแบบนี้ จะทรมานแค่ไหน..
(22 ก.พ. 68) สื่อต่างประเทศ เปิดเผยเหตุการณ์ชวนขนลุก หลังจากนางสาวแซ่ไช่ อายุ 50 ปี จากประเทศไต้หวัน เข้าพบแพทย์ หลังมีอาการน้ำมูกไหลลงคอ และคัดจมูกมานานกว่า 3 เดือน พร้อมทานยาปฏิชีวนะ แต่ทันทีที่เธอหยุดทานยา อาการน้ำมูกไหลลงคอก็เริ่มกลับมาอีก บางครั้งเธอรู้สึกได้กลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นเท้าลอยออกมาจากโพรงจมูก ทำให้เธอรู้สึกแย่อย่างมาก
ต่อมา ดร. เฉิน ซื่อซี แพทย์เฉพาะทางด้านหู คอ จมูก กล่าวว่า หลังจากทำเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่า ไซนัสด้านขวาของเธอ ถูก “ก้อนเชื้อราขนาดใหญ่” อุดตันอย่างเต็มที่ ก่อนที่สุดท้ายแพทย์จึงทำการผ่าตัดเพื่อ ตัด ล้าง และดูดเสมหะ ที่มีเชื้อราออกจากโพรงจมูกทั้งหมดอย่างระมัดระวัง
เมื่อไม่นานมานี้ ดร. เฉิน ซื่อซี ได้โพสต์ภาพ “สิ่งที่ได้รับจากการผ่าตัด” ผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “วันนี้ รับหน้าที่เป็นคนงานเหมือง 1 วัน เพราะต้องขุดเอาก้อนเชื้อราออกเป็นจำนวนมาก”
แพทย์เฉินอธิบายว่า “โรคไซนัสอักเสบจากเชื้อรา” เกิดจากการติดเชื้อราในโพรงไซนัส หรือเกิดจากการที่เชื้อราเติบโตในโพรงไซนัส เนื่องจากภูมิอากาศในประเทศไต้หวันมีความชื้นสูง อากาศอาจมีสปอร์เชื้อราได้ โดยทั่วไปแล้ว เชื้อราที่มนุษย์สูดดมเข้าไป สามารถกำจัดออกได้โดยโพรงจมูกและระบบภูมิคุ้มกัน หากการทำความสะอาดโพรงจมูกไม่ดีหรือระบบภูมิคุ้มกันไม่สมดุล เชื้อราในโพรงจมูกจะเจริญเติบโต และทำให้เกิดโรคไซนัสอักเสบจากเชื้อราได้
แพทย์เฉิน กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคไซนัสอักเสบจากเชื้อรา แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ “ลุกลาม” และ “ไม่ลุกลาม” โดยแบบลุกลาม (Invasive) อาจแพร่กระจายต่อดวงตา หรือสมอง ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ และแบบไม่ลุกลาม (Non – Invasive) จะส่งผลเฉพาะที่ (โพรงจมูก) เท่านั้น
ทั้งนี้ แพทย์เฉิน ซื่อซี กล่าวว่า จากการสแกนซีทีไซนัสของผู้ป่วยรายนี้ พบว่า ไซนัสบริเวณขากรรไกรบนด้านขวาของเธอ เต็มไปด้วยก้อนเชื้อรา พร้อมจุดแคลเซียมที่อยู่ภายในจำนวนมาก ซึ่งเป็นอาการทั่วไปของการติดเชื้อราในไซนัส โดยแพทย์คาดว่าสาเหตุของโรคอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานผิดปกติของขนกวัดในโพรงจมูก ซึ่งทำให้สปอร์ของเชื้อรา หรือเส้นใยไม่สามารถถูกกำจัดออกไปได้
หากใครรู้สึกผิดปกติกับร่างกายตัวเอง อย่าปล่อยเวลาให้สูญเปล่า รีบเข้ารับการรักษา ก่อนที่ทุกอย่างจะยากกว่าเดิม
ขอบคุณข้อมูล : ET today
https://health.ettoday.net/news/2912878