
สถาบันประสาทวิทยาชั้นนำของมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ศาสตราจารย์จอห์น คอลลิงจ์ หัวหน้าศูนย์โรคพรีออน ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการติดเชื้อโรคอัลไซเมอร์ในผู้ป่วย โดยเขาชี้แจงว่า การติดเชื้อนี้ไม่เหมือนกับการแพร่ระบาดของไวรัสหรือแบคทีเรีย และมักเกิดกับผู้ที่เคยผ่าตัดสมองโดยใช้เซลล์หรือเนื้อเยื่อที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคความจำเสื่อม แต่เหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นยากมาก
การวิจัยยังพบว่า โรคพรีออนมีความคล้ายคลึงกับโรคอัลไซเมอร์ในแง่ของการแพร่กระจายของโปรตีนในสมอง โรคพรีออนเกิดจากการติดเชื้อของโปรตีนในสมองและเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ
ในรายงานของสหราชอาณาจักรระหว่างปี 1959-1985 พบว่ามีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์อย่างน้อย 1,848 ราย ซึ่งได้รับฮอร์โมนการเจริญเติบโตจากต่อมใต้สมองของศพ จนกระทั่งการรักษาด้วยวิธีนี้ถูกยกเลิกในปี 1985 หลังจากพบว่าผู้ป่วยบางรายเสียชีวิตด้วยโรคพรีออน Creutzfeldt-Jakob disease (CJD)
นอกจากนี้ ยังมีรายงาน 80 เคสที่พบโปรตีนอะไมลอยด์-เบตาในสมองของผู้เสียชีวิต แม้ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นต้นเหตุของโรคอัลไซเมอร์หรือไม่ แต่งานวิจัยอื่นๆ บ่งชี้ว่าสารนี้อาจเป็นปัจจัยเสี่ยง

ค้นพบอีกว่า ระหว่างปี 2017 ถึง 2022 มีผู้ป่วย 8 คนที่ได้รับฮอร์โมนการเจริญเติบโตจากศพและถูกส่งไปยัง National Prion Clinic ได้รับการวินิจฉัยว่า 5 รายมีอาการสมองเสื่อมที่เข้าข่ายโรคอัลไซเมอร์ โดยมีอาการตั้งแต่อายุเพียง 38 ปี ส่วนอีก 3 รายมีผลการสแกนสมองและตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่สอดคล้องกับการวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์
ใน 3 รายที่เหลือ หนึ่งคนมีความบกพร่องทางสติปัญญาเล็กน้อย อีกคนหนึ่งรายงานว่ามีปัญหาทางสติปัญญา และไม่มีอาการดังกล่าว โดยผลการชันสูตรศพของรายแรกและตัวชี้วัดทางชีวภาพของรายหลังตรงกับเกณฑ์ของโรคอัลไซเมอร์
จาก 5 รายที่มีข้อมูล DNA พบว่า มีเพียงรายเดียวที่มีปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมของโรคอัลไซเมอร์ในช่วงปลาย และไม่มีความแปรปรวนทางพันธุกรรมที่สามารถทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มแรก
นักวิจัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยเหล่านี้แสดงอาการที่แตกต่างจากโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทางพันธุกรรม พวกเขาสันนิษฐานว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดจากสายพันธุ์ที่แตกต่างของอะไมลอยด์-เบต้า ซึ่งอาจนำไปสู่การค้นพบและการรักษาโรคอัลไซเมอร์ในอนาคตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก www.theguardian.com
ข่าวน่าสนใจอื่น: