แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกชายตาบอดสนิท หลังญาติจุ๊บใกล้ตา 

รักจริงอย่าทำ! แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกชายวัย 16 เดือน ตาซ้ายติดเชื้อเริม จนบอดสนิท หลังญาติจุ๊บใกล้ตา ได้แต่รอปาฏิหาริย์มีคนบริจาคกระจกตาที่เหมาะสม

หลายคนเวลาเห็นเด็กแรกเกิดหน้ารักน่าชัง ก็มักจะเข้าไปฟัด ไปจุ๊บ ไปหอม ถ้ารักเขาจริงอย่าทำแบบนั้นเลยค่ะ เพราะปากเราอันตรายกว่าที่คิด 

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Michelle Saaiman ได้ออกมาโพสต์แชร์อุทาหรณ์ ลูกชายวัย 16 เดือน ตาบอด หลังถูกจุ๊บใกล้ตา ระบุว่า… 

ฉันคิดอยู่นานว่าควรแชร์ประสบการณ์อันเลวร้ายนี้ดีมั้ย เพราะปกติฉันจะไม่เคยโพสต์เรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูก แต่ฉันรู้สึกว่าจำเป็นต้องให้คนเข้าใจถึงเหตุผลที่ไม่ควรหอมแก้มหรือจูบลูกของคนอื่น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ฉันเคยอ่านมานับพันครั้ง แต่ก็ไม่เคยรู้สึกกังวลมากนัก  

กระทั่งช่วง 7 เดือนก่อนขณะที่ลูกน้อยอายุ 1 ปี 4 เดือน เขามีอาการคล้ายการติดเชื้อที่ดวงตา แพทย์สั่งจ่ายยาหยอดตาปฏิชีวนะ และเราก็กลับบ้าน 

2 วันต่อมา เราสังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งผิดปกติกับดวงตาของลูก เหมือนมีอะไรกำลังเติบโตภายในลูกตา นอกจากนี้ ยังพบว่าเขาไม่มีความรู้สึกเกี่ยวกับดวงตา เพราะเห็นเขาใช้นิ้วแหย่เข้าไปในดวงตา ขูดขีดลูกตาของตัวเองโดยไม่มีอาการสะดุ้งแม้แต่น้อย ฉันจึงรีบปรึกษาแพทย์ เธอรีบจัดการให้เราพบจักษุแพทย์ทันที ซึ่งจักษุแพทย์ วินิจฉัยว่าลูกชายของฉันเป็นไวรัสเริม (HSV) ในดวงตาซ้าย  

ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน แผลเริมกำลังเติบโตบนกระจกตาของเขา ฉันขอไม่กล่าวถึงรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการรักษา และความบอบช้ำทางจิตใจ แต่หลังจากเสียค่ายาหลายพันดอลลาร์ เข้าห้องผ่าตัด 2 ครั้ง การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจ การไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (รวมถึงกุมารแพทย์จากอเมริกาที่ให้ความช่วยเหลือ) และเภสัชกรผู้ยอดเยี่ยมที่ต้อง ‘คิดค้น’ ยาพิเศษสำหรับอาการของจูวาน ในที่สุดเราก็สามารถทำให้ไวรัสเข้าสู่ภาวะสงบได้” 

สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ ไวรัสนี้ หากไม่ได้รับการรักษา สามารถแพร่กระจายไปยังสมอง ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อีกมากมายก็อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากไวรัสเริมไม่สามารถรักษาให้หายได้อย่างแท้จริง เพียงแค่ควบคุมได้เท่านั้น มันมักจะกำเริบขึ้นเป็นครั้งคราว ซึ่งน่าเสียใจที่เกิดขึ้นกับลูกของเรา 

มกราคมปีนี้ เราได้เดินทางไปแอฟริกาใต้เพื่อปรึกษาจักษุแพทย์ด้านกุมารเวช วันนี้ลูกของเราเข้ารับการผ่าตัดครั้งแรกจากทั้งหมดสามครั้ง ในความพยายามที่จะช่วยดวงตาของเขา การผ่าตัดครั้งที่สองเกี่ยวข้องกับการนำเส้นประสาทจากขาของเขามาปลูกถ่ายเข้าไปในดวงตา หากขั้นตอนนั้นประสบความสำเร็จ ในที่สุดเขาจะมีสิทธิ์ได้รับการปลูกถ่ายกระจกตา โดยมีเงื่อนไขว่าต้องหาผู้บริจาคที่เหมาะสมได้ 

หนังตาของเขาถูกเย็บปิดเพื่อปกป้องดวงตา ไม่ว่าการมองเห็นจะสามารถฟื้นฟูได้หรือไม่ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดในขณะนี้ แต่เราได้ทำใจยอมรับความจริงที่ว่าเขาอาจตาบอดอย่างถาวร” 

ระวังกันด้วยนะคะ ‘อีจัน’ เป็นห่วง