เมื่อไม่นานนี้ ทรัมป์ได้กล่าวข้อความผ่านโซเชียล ว่าตนได้วางแผนที่จะปฏิรูปนโยบายการใช้หลอดกระดาษ ให้เปลี่ยนกลับมาใช้หลอดพลาสติกอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดแบบแผนดังกล่าว ได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการแล้ว
วานนี้ (10 ก.พ.68) “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งยกเลิกการใช้หลอดกระดาษอย่างเป็นทางการ เตรียมหวนกลับมาใช้หลอดพลาสติกอีกครั้ง หลังจากเมื่อ 7 ก.พ. ทรัมป์ได้กล่าวผ่านโซเชียลว่า “ในสัปดาห์หน้า ตนเตรียมจะลงนามยกเลิกคำสั่งการใช้หลอดกระดาษ และเตรียมจะที่นำพลาสติกกลับมาใช้”
ซึ่งครั้งนี้ ทรัมป์ได้กล่าวระหว่างลงนามว่า “นโยบายการใช้หลอดกระดาษของ โจ ไบเดน เพื่อลดมลพิษขยะพลาสติกในประเทศสหรัฐฯ “ไม่เห็นผลตอบรับที่ดี” ซึ่งตนเคยใช้หลอดกระดาษ พบว่ามันแตกหรือขาดได้ง่าย ยิ่งถ้าใช้กับของร้อน จะทนอยู่ได้ไม่นาน โดยมองว่าไร้ความจำเป็นอย่างยิ่ง”
นอกจากนี้ เกิดการซักถามในประเด็นพลาสติกจะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่? ทรัมป์กล่าวว่า “ตนไม่คิดว่าหลอดพลาสติกจะส่งผลกระทบต่อฉลามที่เผลอกลืนเข้าไป”
ทั้งนี้ เมื่อปี 2567 อดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้มีคำสั่งให้รัฐบาลกลางลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับตั้งเป้าหมายให้ภาครัฐยุติการใช้พลาสติกประเภทนี้ภายในปี 2027 และขยายสู่ทุกภาคส่วนภายในปี 2035 ก่อนจะถูกยกเลิกโดยทรัมป์ในครั้งนี้
ซึ่งการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงของทรัมป์ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากประชาชน แต่กลับเป็นข้อกังวลสำหรับฝ่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาพลาสติก และไมโครพลาสติกที่อาจปนเปื้อนต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ค้นพบว่า “หลอดกระดาษอาจมี “สารโพลีและเพอร์ฟลูออโรอัลคิล (PFAS)” หรือเรียกว่า “สารเคมีถาวร” ที่เป็นอันตรายต่อทั้งมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากเกิดการสะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอย่างร้ายแรง”
ขอบคุณข้อมูล : The Guardian
https://www.theguardian.com/us-news/2025/feb/10/trump-plastic-straws-executive-order