
กลับสู่ตำแหน่งไม่ถึง 1 ปี แต่มีเรื่องให้พูดถึงแทบทุกวัน..
วันนี้ (21 มี.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศการลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่จะเริ่มกระบวนการยุบกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากได้ลั่นวาจาไว้ก่อนหน้านี้
โดยทรัมป์กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “เราจะกำจัดมัน และทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ประเทศนี้ไม่ได้ทำผลงานได้ดีกับโลกแห่งการศึกษา และเป็นแบบนี้มานานแล้ว”
“สหรัฐฯ ใช้จ่ายงบประมาณต่อนักเรียนจำนวนมาก แต่กลับอยู่ในอันดับท้าย ๆ ในแง่ประสบความสำเร็จ”

หลังจากที่ “ทรัมป์” ได้ลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหาร โดยมีเด็กนักเรียนนั่งข้าง ๆ บนโต๊ะ ทรัมป์ได้ชูคำสั่งนั้นขึ้น และเชิญ “ลินดา แม็กมาฮอน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ยืนขึ้นบนเวทีกับเขาด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกันหลายคนเข้าร่วมการลงนามด้วย รวมถึงผู้ว่าการรัฐรอน เดอซานติส แห่งรัฐฟลอริดา, ไมค์ เดอไวน์ แห่งรัฐโอไฮโอ, ไมเคิล บราวน์ แห่งรัฐอินเดียนา, เกร็ก แอ็บบอตต์ แห่งรัฐเท็กซัส และคิม เรย์โนลด์ส แห่งรัฐไอโอวา

รายงานระบุเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ “ทรัมป์” จะมีความมั่นใจในการยุบกระทรวงครั้งนี้ แต่การปิดหน่วยงานดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส การจะผลักดันกฎหมายส่วนใหญ่ในวุฒิสภาต้องได้รับคะแนนเสียง 60 เสียง ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีสมาชิกพรรคเดโมแครต 7 คน ลงคะแนนเห็นชอบร่วมกับสมาชิกพรรครีพับลิกันทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ดำเนินการลดบทบาทของหน่วยงานนี้ลงไปมากแล้ว นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง จำนวนพนักงานในกระทรวงศึกษาธิการถูกลดลงกว่าครึ่ง และมีการตัดงบประมาณไปกว่า 600 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.3 หมื่นล้านบาท) ซึ่งการปลดพนักงาน ส่งผลกระทบต่อสำนักงานสิทธิพลเมืองของกระทรวง ซึ่งมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกัน

ด้าน “เท็ด มิตเชลล์” ประธานสภาการศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า “นี่เป็นแค่การแสดงทางการเมือง ไม่ใช่นโยบายสาธารณะที่จริงจัง”
“การรื้อถอนหน่วยงานของรัฐบาลกลาง จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส และเราขอเรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสปฏิเสธวาทกรรมที่ทำให้เข้าใจผิด และมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อเด็กนักเรียนและครอบครัวของพวกเขา”
ขณะที่ อัยการสูงสุดของรัฐเดโมแครตเกือบ 20 คน ได้รวมตัวยื่นฟ้องรัฐบาลของทรัมป์ เพื่อขอให้ยุติความพยายามในการลดจำนวนพนักงานของกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ฝ่ายบริหารละเมิดหลักการแบ่งแยกอำนาจของรัฐธรรมนูญ และละเมิดข้อกำหนดที่ให้ประธานาธิบดีต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง
ขอบคุณข้อมูล : CBS News