พี่ทรัมป์ทำมึนไปทั่วโลก..
หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 เม.ย. 68) สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเว้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางรายการ อาทิ สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป ออกจากมาตรการภาษีตอบโต้กับจีน 145% แต่ล่าสุดสถานการณ์กลับพลิกผันอีกครั้ง
วานนี้ (13 เม.ย. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ระบุว่า “จะไม่มีข้อยกเว้นเรื่องภาษีศุลกากรใด ๆ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ (อิเล็กทรอนิกส์) จะจัดอยู่ในกลุ่มภาษีศุลกากรที่บังคับใช้ เพื่อบีบรัดให้ทางการจีนกวาดล้างเฟนทานิล ขณะที่ตอนนี้กำลังย้ายไปอยู่ในกลุ่มภาษีประเภทอื่น”
โดยโพสต์ดังกล่าว ทรัมป์สัญญาว่า จะเริ่มต้นการสอบสวนการค้าด้านความมั่นคงแห่งชาติ ในภาคส่วน “เซมิคอนดักเตอร์ และ ห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด”
“เราจะไม่ถูกยึดครองโดยประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นศัตรูทางการค้าอย่างจีน” ทรัมป์กล่าวเสริม
ต่อมา จาง หลี่ ประธานศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งประเทศจีน ได้เปิดเผยถึงการประกาศดังกล่าว ระบุว่า การยกเว้นดังกล่าวพิสูจน์ให้เห็นว่า “จีนมีความสำคัญต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ มากเพียงใด ซึ่งต้องพึ่งพาจีนเป็นอย่างมากในการผลิตและนวัตกรรม”
อย่างไรก็ตาม โฮเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของทรัมป์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่สำคัญจากจีน จะต้องเผชิญกับภาษีใหม่แยกต่างหาก ร่วมกับเซมิคอนดักเตอร์ภายใน 2 เดือนข้างหน้านี้
“ทรัมป์จะบังคับใช้ “ภาษีศุลกากรแบบพิเศษ” สำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ควบคู่ไปกับภาษีศุลกากรเฉพาะกลุ่มที่มุ่งเป้าไปที่เซมิคอนดักเตอร์และยา ภาษีศุลกากรใหม่นี้จะอยู่นอกเหนือสิ่งที่ทรัมป์เรียกว่าภาษีศุลกากรแบบตอบแทนต่อจีน” ลัทนิค กล่าว
สำหรับ 2 ประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจโลก ยังอยู่ในสภาวะตึงเครียด นับตั้งแต่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้า โดยมีเป้าหมายเฉพาะสินค้านำเข้าจากจีน โดยปัจจุบันสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 145% ขณะที่จีนได้ตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% ซึ่งยังคงไร้วี่แววในการเจรจาต่อรอง
ขอบคุณข้อมูล : The Guardian