กันไว้ก่อน! “เปรู” ออกกฎหมาย “ห้ามซ้อนท้ายจักรยานยนต์” เลี่ยงเหตุอาชญากรรม

รัฐบาลเปรู ประกาศขยายภาวะฉุกเฉินเพิ่ม 30 วัน ในพื้นที่กรุงลิมาและท่าคัลเลา หลังเกิดเหตุกรรโชกทรัพย์ระบาด – พร้อมออกกฎ “ห้ามซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์” เลี่ยงตกเป็นเป้าสังหาร

เปรูประกาศขยายภาวะฉุกเฉิน 30 วัน รับมือความรุนแรงจากแก๊งอาชญากรรม พร้อมออกกฎคำสั่งห้ามซ้อนท้ายจักรยานยนต์ เลี่ยงตกเป็นเป้าสังหาร

(14 เม.ย. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า รัฐบาลเปรู ได้ประกาศขยายภาวะฉุกเฉินในกรุงลิมาและเมืองท่าคัลเลา ออกไปอีก 30 วัน เพื่อตอบโต้ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรกรรโชกทรัพย์ในประเทศ

ภาพประกอบ

โดยมาตรการฉุกเฉินนี้ เปิดทางให้กองทัพสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจ พร้อมจำกัดสิทธิบางประการ เช่น การชุมนุม และอนุญาตให้ตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายศาล รวมถึงห้ามผู้โดยสารซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นวิธีการที่แก๊งอาชญากรใช้ก่อเหตุยิงสังหาร

ประเทศเปรู เริ่มประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งแรก เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุสังหาร “พอล ฟลอเรส” นักร้องชื่อดัง ซึ่งถูกมือปืนยิงเสียชีวิต หลังจากตกเป็นเป้าหมายของการกรรโชกทรัพย์

ด้าน ดีน่า โบลูอาร์เต้ ประธานาธิบดีเปรู ยืนยันว่าจะเดินหน้าจัดการกับกลุ่มอาชญากรอย่างเด็ดขาด โดยกล่าวว่า “เราจะไม่ยอมให้มีผู้เสียชีวิตอีก”

ขณะที่ หน่วยงานด้านความมั่นคงเปรู ระบุว่า ความรุนแรงในเปรูทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีองค์กรอาชญากรรมจากต่างประเทศ เช่น Tren de Aragua ของเวเนซุเอลา เข้ามาเกี่ยวข้อง ข้อมูลล่าสุดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีมีคดีฆาตกรรมแล้วกว่า 450 คดี โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรม

ขอบคุณข้อมูล : Raibar Press