ม่วนอีหลี กับทริปดีดีที่แดนอีสาน “เที่ยวคูล ๆ” เที่ยวได้ในวันธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาแน่นอน
ม่วนชื่น ม่วนหลาย สุขใจได้แม้จะเที่ยวในวันธรรมดา ที่อีจันอยากจะมาแนะนำ ทริปแสนพิเศษ ที่จะพาให้ทุกคนไปเที่ยวกับเส้นทางเที่ยวดีดีที่แดนอีสาน สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร 3 วัน 2 คืน ค่ะ
ขอออกสตาร์ท Day 1 ด้วยการไหว้สักการะขอพรองค์พระธาตุเชิงชุม ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร องค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสกลนคร และหลวงพ่อพระองค์แสน พระพุทธรูปประจำจังหวัดสกลนคร ขอพรให้อิ่มอก อิ่มใจ ปลอดภัย ตลอดทริปจ้า
จากนั้นแวะเติมพลังมื้อเที่ยงชิมเมนู“แกงหวาย”อาหารพื้นบ้านของจังหวัดสกลนครที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นอาหารประจำจังหวัดสกลนคร หรือ “อาหารประจำถิ่น 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ที่มีให้เลือกถึง 2 ร้านใครจะไปที่ร้านสะบันงา หรือ บ้านฟ้าโปร่งก็ได้ ถูกปาก ถูกใจแน่นอน
อิ่มท้องแล้วเดินทางไปกันต่อที่ “วัดถ้ำผาแดน” อีกหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดของสกลนคร วัดเก่าแก่มีความเป็นมานับร้อยปี ภายในบริเวณวัดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และโขดหิน ภาพแกะสลัก บนหน้าผาหิน ที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงรูปปั้น องค์พญานาคปรกขนาดใหญ่ ที่สายมูอย่างเรา ๆ ไม่ควรพลาด และยังมีลานชมทิวทัศน์ที่มองเห็นตัวเมืองสกลนครและทะเลสาบหนองหารได้แบบ 180 องศาอีกด้วย ขอบอกว่า วิลิศมาหราตระการตามาก ๆ ค่ะ
มาสกลทั้งที ต้องมีอะไรติดไม้ติดมีกลับไปหน่อย ปักหมุดไปที่ “ร้านครามสกล” เลยค่ะเพื่อซื้อของฝากให้คนที่บ้านซักหน่อย ที่นี่มีสินค้าที่ทำมาจากผ้าครามให้เลือกซื้อเยอะเลยค่ะ เก๋ ๆ คูล ๆ ทั้งนั้น โดยผ้าครามที่นี่ ขึ้นชื่อเรื่องการดีไซน์ เนื้อผ้าผิวสวย และยังป้องกันแสงยูวีได้อีกด้วย ส่วนใครที่ไม่รีบไปต่อ ก็สามารถร่วมทำกิจกรรม DIY ย้อมผ้าครามกับทางร้านได้นะคะ
จบทริปวันแรกแบบคูล ๆ ที่ ร้านฟาร์มฮัก เพื่อลิ้มรส เมนูเนื้อโคขุนกระทะร้อน หรือสเต็กเนื้อโคขุน แต่ถ้าใครไม่ทานเนื้อที่นี่ยังมีเมนูอาหารอีสานให้แซบอีกหลายเมนูที่ต้องไม่พลาดค่ะ ระหว่างรอเมนูก็สามารถเดินไปถ่ายรูปเช็คอินบรรยากาศในฟาร์มก็ได้ค่ะ
Day 02 เตรียมกล้องเช็ดเลนส์ให้พร้อม เพื่อจะไปถ่ายรูปที่ อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ ค่ะ เพราะอดใจไม่ไหวกับความสวยของดอกบัวหลากสีสัน ที่มีมากกว่าหลายร้อยสายพันธุ์ รวมถึงสะพานสวย ๆ ที่ทอดยาวไปยังกลางบึงบัวให้เราได้กดถ่ายรัว ๆ ส่งภาพอวดเพื่อนอีกด้วย
ที่นี่..เป็นอุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดกของประเทศไทย อีกด้วยนะคะ ถ่ายรูปกับบัวเสร็จและอย่าลืมแวะขอพรองค์พญานาคเผือกขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมอุทยานบัวฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ และใกล้ ๆ ยังมีร้านกาแฟ ขนม เครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย
ออกจากอุทยานบัวฯ ปักหมุดต่อที่ “หมู่บ้านท่าแร่” ชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเดินเที่ยวชมหมู่บ้าน สัมผัสบรรยากาศเงียบสงบ และวิถีชุมชนขาวคาทอลิคที่เรียบง่าย ถ่ายรูปกับตึกโบราณอายุนับ 100 ปี รวมถึงบ้านเรือนและตึกโบราณสไตล์โคโรเนียลแบบฝรั่งเศสที่สวยงามมากค่ะ ตั้งเรียงเป็นอาคารทอดยาวที่เป็นเอกลักษณ์ ตามแบบฉบับของฝีมือช่างท้องถิ่นที่ไม่เหมือนที่ไหนจริง ๆ คอนเฟิร์มเลยว่ามาที่นี่ ได้รูปสวย ๆ และสูดอากาศดีดีแบบฉ่ำปอดแน่นอน
เดินกันฉ่ำแล้ว ต้องเติมพลังกันหน่อย ณ ร้านเติบโต ร้านอาหารบรรยากาศดีริมแม่น้ำโขง ต.อาจสามารถ เพื่อกินเมนู “เมี่ยงตาสวด” เมนูประจำชุมชนเผ่าไทแสก ซึ่งสามารถซื้อเมี่ยงตาสวดเป็นของฝากได้นะคะ ส่วนใครที่อยากจะเดินเที่ยวชุมชน ก็สามารถ ติดต่อ คุณจารุวรรณ ผู้ดูแลชุมชนไทแสก ที่เบอร์ . 061 4374637 ได้ค่ะ
เป็นอันจบทริป DAY 2 แบบชิล ๆ พักผ่อนให้เต็มที่เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินสายเที่ยวคูล ๆ ใน DAY 3 จ้า
Day 03 เริ่มทริปปัง ๆ ด้วยการนมัสการพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แดนอีสานพระบรมธาตุที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนม มาแต่โบราณกาล เขาว่ากันว่าหากใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สำหรับแอดมินไปมา 3 ครั้ง แล้วค่ะ และต้องกลับมาซ้ำจนได้เป็นลูกพระธาตุแน่นอน
สำหรับมื้อเที่ยงวันนี้ ต้องจัดให้ได้กับ “เมนูหมูหัน” ที่แก่งกะเบา ที่ใคร ๆ มาก็บอกว่าอร่อยเว่อร์มีให้เลือกหลายร้านเลยค่ะ ความปังของหมูหันที่นี่ เขาจะย่างจนหนังกรอบ แถมเนื้อยังนุ่มมาก ได้คู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด ฟินเว่อร์มาก แถมบรรยากาศยังดีมากอีกด้วย แต่ละร้านสามารถมองเห็นวิวลำน้ำโขงทอดยาวซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่าง ประเทศไทยและเมืองไชยบุรี สปป.ลาว อากาศปลอดโปร่ง มีลมพัดตลอดเวลา เป็นการเที่ยววันธรรมดาที่ฟินสุด ^^
หนังท้องตึงแล้ว แต่หนังตาอย่าเพิ่งหย่อนนะคะ โปรแกรมต่อไปต้องตาโตด้วยความตื่นเต้นแน่นอน เพราะจะได้ไปขอพรกันต่อจุดแรกขอเริ่มที่พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราชหรือพญานาคดินองค์พญานาคที่ประดับด้วยเกร็ดหินอ่อนสีขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยตั้งโดดเด่นเป็นสง่าริมฝั่งโขงบริเวณแก่งกะเบาค่ะตัวของ องค์พญานาคเมื่อกระทบกับแสงแดดก็สวยงามมากที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อว่า หากใครได้มา กราบไหวสักการะ จะอุดมสมบูรณ์ มั่นคง มั่งคั่ง ร่ำรวย ค่ะ รวย รวย รวย ปัง ปัง ปัง จ้า
จากนั้นเดินทางไปสักการะ ขอพรพญาอนันตนาคราชหรือ พญานาคน้ำ ที่จุดชมวิวสะพานมิตรภาพ ไทย ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ตามความเชื่อว่า หากใครได้มากราบไหว้สักการะ จะร่มเย็น ร่มรื่น และราบรื่นค่ะ ขอพรเสร็จแล้วอย่าลืมแวะชมความสวยงาม เสน่ห์ริมโขงมุกดาหาร เดินเล่นชมวิวสะพานมิตรภาพไทย ลาว ด้วยนะคะ
ออกเดินทางไป สักการะขอพรพญาศรีมุกดามหามุนีนิลปาลนาคราช หรือ พญานาคฟ้าที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองมุกดาหารประมาณ 5 กม. ค่ะ
และต้องไม่พลาดที่จะเดินขึ้นไปยัง จุดชมวิวที่สวยที่สุด ชมทิวทัศน์ บนลานชมวิวสุดเขตแดนสยาม
มองได้ไกลสุดลูกหูลูกตาของสองฝั่งโขงไทย-ลาวเลยค่ะ
ต่อด้วยการไหว้พระขอพร พระพุทธมิ่งมงคลมุนีศรีมุกดาหาร พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ที่ประดิษฐานบนภูมโนรมย์ ที่เราต้องไม่พลาด
เพราะตามความเชื่อว่าหากใครได้มากราบไหวสักการะ พญานาคฟ้า จะเจริญรุ่งเรือง เติบโต เลื่อนตำแหน่ง สาธุ สาธุ ค่ะ
ขอพรอีกที่แล้วกัน ไหน ๆ ก็เดินสายพญานาคแล้ว ที่นี่เลยค่ะ วัดดานพระอินทร์ เพื่อนมัสการเจดีย์ชัยแก้วมงคล , องค์พญานาค, พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ, พระพุทธรูปต่าง ๆ รวมไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดอื่น ๆ เพื่อขอพรกันแบบจุก ๆ กันเลยค่ะ สาธุ สาธุ
จบทริป เที่ยวคูล ๆ ที่สุดท้าย ที่ทุ่งกังหันลม “ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม” เพื่อถ่ายภาพกับบรรยากาศสุดคูล ในโครงการทุ่งกังหันลม ซึ่งกังหันลมที่มีความสูงที่สุด ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และสร้างพลังงานทดแทนที่ยั่งยืนอีกด้วย
เป็นการแพลนเที่ยววันธรรมดา ที่อิ่มอก อิ่มใจ อิ่มบุญ คูลๆ ปังๆ สุขใจเว่อร์
มาแล้วจะหลงรัก สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร แน่นอน
ครั้งต่อไป 3 วัน 2 คืน อาจไม่พอนะคะ ^^
อยากชวนทุกคนลองมาเที่ยวมาสัมผัสกันจริง ๆ ค่ะ
#AmazingThailand
#สุขทันทีที่เที่ยวไทย
#สุขทันทีที่เที่ยวกับอีจัน
#สุขทันทีที่เที่ยววันธรรมดากับอีจัน
#สุขทันทีที่เที่ยววันธรรมดา
#วันธรรมดาน่าเที่ยว
#เมืองน่าเที่ยว
#เที่ยวหน้าฝน