สวนดุสิตโพล ชี้ “นายกฯ อิ๊งค์” เรตติ้งร่วง – ดัชนีการเมือง “ผลงานฝ่ายค้าน” พุ่งแซง

เอาแล้วไง! สวนดุสิตโพล ชี้ เรตติ้งความนิยม “นายกฯ อิ๊งค์” ร่วง “เท้ง” แซงขึ้นที่ 1 – ด้านดัชนีการเมือง “ผลงานฝ่ายค้าน” พุ่งแซง หลังจบอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แล้วลูกเพจคิดเห็นอย่างไร ใจตรงกับผลสำรวจหรือเปล่า?

วันนี้ (31 มี.ค. 68) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย” ประจำเดือนมีนาคม 2568” โดยมีกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,141 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 24 – 28 มีนาคม 2568 โดยมีตัวชี้วัดทั้งหมด 25 ประเด็น

ผลสำรวจพบว่า ภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนมีนาคม 2568 เฉลี่ยที่ 4.95 คะแนน จาก 10 คะแนนเต็ม ซึ่งลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ได้ 5.02 คะแนน

โดยตัวชี้วัดดัชนีการเมืองไทยที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 5.46 คะแนน และตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือ การแก้ปัญหาความยากจน เฉลี่ย 4.43 คะแนน

นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 45.53 และด้านนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน คือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาชน ร้อยละ 55.28

ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ร้อยละ 43.05 ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ร้อยละ 66.28

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า คะแนนดัชนีการเมืองไทยเดือนมีนาคมลดลงต่ำกว่า 5 คะแนนอีกครั้ง หลังจบศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เห็นชัดจากคะแนนผลงานฝ่ายค้านที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับคะแนนผลงานรัฐบาลที่ลดลงไปอยู่อันดับที่ 11 และผลงานนายกรัฐมนตรีไปอยู่อันดับที่ 14 แม้มีผลงานคืบหน้าแจกเงินหมื่นกลุ่มวัยรุ่นแต่ก็ยังไม่เพียงพอให้ประชาชนรู้สึกเชื่อมั่นจากการตอบคำถามในสภา แต่นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่เห็นการพัฒนาด้านการเมืองที่ชัดเจนขึ้นของตัวนายกรัฐมนตรี

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ยอดชาย ชุติกาโม อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ดัชนีการเมืองไทยเดือนมีนาคม 2568 ลดลง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นทางการเมืองของคนไทยที่ลดลง ทั้งนี้ในบรรดาตัวชี้วัดทั้ง 25 ตัว มีเพียง 6 ตัวชี้วัด ที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อาทิ ผลงานของฝ่ายค้าน การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ การประพฤติตนและพฤติกรรมของนักการเมือง การแก้ปัญหาการว่างงาน ผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด แต่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญคือ เรื่องการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส โดยได้ 4.70 คะแนน เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ได้เพียง 4.61 คะแนน

ส่วนผลงานของนายกรัฐมนตรีนั้น ได้คะแนนลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้าน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ มีคะแนนความนิยมเหนือนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กว่า 10% อย่างไรก็ดี รัฐบาลจะต้องไม่ลืมว่าการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ แต่ผลโพลชี้ว่าการแก้ปัญหาความยากจนและราคาสินค้าได้รับคะแนนลดลงมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีควรให้ความใส่ใจมากกว่าการรับฟังข้อมูลจากผู้ใต้บังคับบัญชา โดยปราศจากความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาอย่างแท้จริง

ขอบคุณข้อมูล : สวนดุสิตโพล