
จากกรณีรัฐบาลไทย ผลักดัน “ชาวอุยกูร์” กลับประเทศจีน หลังถูกควบคุมตัวอยู่ในไทย มานานกว่า 11 ปี เนื่องจากการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ล่าสุด วันนี้ (15 มี.ค.68) นายมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ได้สั่งใช้มาตรการคว่ำบาตรวีซ่า (Visa Sanctions) จำกัดการออกวีซ่า และยกเลิกวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบันที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน โดยมาตรการนี้อาจขยายไปถึงสมาชิกในครอบครัวของผู้ที่ถูกคว่ำบาตรด้วย
นายรูบิโอ กล่าวว่า “วันนี้ ผมประกาศนโยบายข้อจำกัดเกี่ยวกับวีซ่าใหม่ ซึ่งจะมีผลกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันหรือในอดีต ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันชาวอุยกูร์หรือชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์หรือศาสนากลุ่มอื่นที่อาจไม่ได้รับความคุ้มครองกลับประเทศจีน เรามุ่งมั่นต่อสู้ความพยายามของจีนในการกดดันรัฐบาลต่าง ๆ ให้ผลักดันชาวอุยกูร์และกลุ่มอื่น ๆ กลับประเทศจีน ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับการทรมานและการบังคับให้สูญหาย
ผมปฏิบัติตามนโยบายนี้โดยทันทีด้วยการดำเนินขั้นตอนเพื่อกำหนดข้อจำกัดเกี่ยวกับวีซ่ากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันและในอดีต ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันชาวอุยกูร์ 40 คน ออกจากประเทศไทยในวันที่ 27 กุมภาพันธ์

จากการที่จีนกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติกับชาวอุยกูร์มาเป็นเวลานาน เราขอให้รัฐบาลทั่วโลกไม่ผลักดันชาวอุยกูร์และกลุ่มอื่น ๆ กลับประเทศจีน
นโยบายข้อจำกัดเกี่ยวกับวีซ่านี้เป็นไปตามมาตรา 212(a)(3)(C) แห่งรัฐบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (Immigration and Nationality Act) และอนุญาตให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ดำเนินการตามข้อจำกัดเกี่ยวกับวีซ่ากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันหรือในอดีต ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันชาวอุยกูร์หรือชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์หรือศาสนากลุ่มอื่นที่อาจไม่ได้รับความคุ้มครองกลับประเทศจีน สมาชิกครอบครัวบางคนของบุคคลดังกล่าวอาจอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน”

ที่มา: สถานทูตสหรัฐฯและสถานกงสุลในประเทศไทย