ชัดเจน! ‘แพทองธาร’ ตอกกลับ ‘ดีลปีศาจ’ พาพ่อกลับบ้าน – แจงปมชั้น 14

นายกรัฐมนตรี ขึ้นชี้แจงประเด็นพรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปมครอบครองที่ดิน – คอลเซนเตอร์ – ดีลปีศาจ และชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ -ลั่น “ให้ดิฉันลาออกจากความเป็นลูกสาว ดิฉันทำไม่ได้”

จากกรณีวันนี้ (25 มี.ค. 68) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ กรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งในปีนี้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี “น.ส. แพทองธาร ชินวัตร” เพียงคนเดียว โดยในวันนี้ ตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชน 4 ราย ได้แก่ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์, นายรังสิมันต์ โรม, น.ส.รักชนก ศรีนอก และ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ

กระทั่งเวลาประมาณ 15.40 น. นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้ขึ้นมาตอบกลับถึงประเด็นที่พรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายก่อนหน้านี้

โดยเริ่มจากประเด็นการครอบครองที่ดินโรงแรมวัลเลย์ เขาใหญ่ นายกฯ ยืนยันว่า การครอบครองที่ดิน การประกอบกิจการ ธุรกรรมใด ๆ ของครอบครัว เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ส่วนในประเด็นคอลเซนเตอร์ นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ รัฐบาลได้ปฏิบัติการไปไกลกว่านั้นเยอะแล้ว ซึ่งแก้ปัญหาได้ไกลมากพอสมควร โดยการแก้ปัญหาคอลเซนเตอร์ ทำต่อเนื่องมาจากรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา พร้อมมีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น เมียนมา จีน หรือแม้แต่กัมพูชา ซึ่งในเรื่องการตัดน้ำมัน ตัดสัญญาณ รัฐบาลได้รับคำชมจากประเทศจีน ที่ตัดสินใจเด็ดขาดและดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยฝ่ายจีนได้สนับสนุนข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งในวันนี้ต้องพูดดได้ว่าปัญหาคอลเซนเตอร์ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด มาจากความร่วมมือจากทุกประเทศ ที่เราได้ขอความร่วมมือ และได้ผลกลับมาอย่างดี

พร้อมได้ระงับบัญชีม้าไปแล้ว 1.92 ล้านบัญชี รวมถึงการระงับบัญชีต้องสงสัย 547,558 บัญชี ส่วนในเรื่องซิมม้า ได้กวาดล้างไปแล้ว 2.4 ล้านเลขหมาย พร้อมระงับซิมต้องสงสัยที่มีการใช้งานแบบผิดปกติ ไม่ผ่านการยืยันตัวตน ไปแล้ว 2.8 ล้านเลขหมาย นอกจากนี้ รัฐฯ ได้ตรวจสอบผู้ใช้ Mobile Banking ที่ลงทะเบียนหลังจาก 1 ม.ค. 68 มีจำนวน 3.176 ล้านเลขหมาย หากไม่มายืนยันตัวตน ก็จะไม่สามารถใช้ Mobile Banking ได้

นายกฯ กล่าวว่า นับตั้งแต่มีมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต สถิติการแจ้งคดีอาชญากรรมออนไลน์ทั้งหมดของประเทศไทย ลดลงไป 20% โดยเฉพาะคอลเซนเตอร์ที่ลดลงถึง 67% ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนลดลงกว่า 50% จากเดิมวันละ 100 ล้านบาท เหลือ 50 ล้านบาท ซึ่งยังเป็นตัวเลขไม่น่าพอใจ ซึ่งในขณะนี้ได้เร่งรัด ร่าง พ.ร.ก. มาตรการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งอยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกา

ส่วนในเรื่องดิจิตัลวอลเล็ต ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายเรือธงของรัฐบาลชุดนี้ อ้างอิงจากสไลด์ของนายกฯ ระบุว่า ผลการดำเนินการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 กระตุ้น GDP ได้ 0.3% และสร้างตัวทวีคูณเฉลี่ยอยู่ที่ 0.7 ซึ่งดิจิตัลวอลเล็ตมีเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใน 2 รอบแรก แจกเป็นเงินสด แม้ไม่ตรงปก แต่ตรงเป้าแน่นอน ส่วนในรอบที่ 3 กำลังจะมาถึงแล้ว ซึ่งจะเป็นดิจิตัลวอลเล็ตแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งเป้าหมายระยะยาวของนโยบายนี้ คือยกระดับสังคมเป็นสังคมดิจิตอล

ประเด็นสุดท้าย เรื่องชั้น 14 นายกฯ ชี้แจงในฐานะลูกสาว กล่าวว่า นับตั้งแต่คุณพ่อ (ทักษิณ) กลับมาประเทศไทย กระทั่งวันที่ออกจากโรงพยาบาลชั้น 14 ดิฉันยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ดิฉันเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และไม่มีอำนาจใด ๆ พร้อมแนะว่า การจะอภิปรายอะไรลักษณะนี้ จะต้องเห็นค่าของผู้รักษากฏหมาย ซึ่งการพูดแบบนี้เป็นการด้อยค่า

นายกฯ กล่าวว่า ดิฉันเชื่อว่าลูกคนไหนที่เห็นความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และสถานการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด ทุกท่านต้องทราบถึงความยากลำบาก “ความอยุติธรรม” ถ้าจะหาใครสักคนที่เผชิญเรื่องความอยุติธรรม ดิฉันมั่นใจว่า ดร.ทักษิณ คือ 1 ในคนท็อป ๆ ได้รับความอยุติธรรม

รวมถึงมีการกล่าวหาว่า ทักษิณกลับมาเพราะ “ดีลกับปีศาจ” ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ นายกฯ กล่าวว่า 100% ที่ไม่เป็นความจริง เพราะนี่คือการตัดสินของนายทักษิณอย่างเต็มรูปแบบว่าจะกลับมา ดิฉันเองก็ไม่อยากให้ท่านกลับมาติดคุก แต่ว่าท่านอยากใช้เวลาที่เหลือกับครอบครัวที่เมืองไทย ซึ่งท่านมีความรักและห่วงพี่น้องประชาชน คิดอะไรก็คิดถึงแต่ประชาชน ซึ่งดิฉันฟังท่านและรู้สึกว่ามี Passion ในการทำงาน

นายกฯ กล่าวเพิ่มอีกว่า ถ้าวันนั้น พรรคเพื่อไทยและก้าวไกล จับมือกันจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม “ดร.ทักษิณ ชินวัตร” ก็จะกลับมาประเทศไทยอยู่ดี ส่วนเรื่องของพระราชทานอภัยโทษ เป็นสิทธิของผู้ต้องคดี ดิฉันไม่ขอก้าวล่วง และถ้าจะบอกว่าป่วยจริงหรือป่วยหลอก เมื่อแพทย์วินิจฉัยก็ถือเป็นสิ่งที่ชัดเจน

ทั้งนี้ นายกฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ตลอดการอภิปราย ท่านสมาชิกก็มีการเรียกร้อง ให้ดิฉันลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิทธิ์ของทุกท่าน ที่อยู่ในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ ทุกท่านทำได้ค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านทำไม่ได้ คือขอให้ดิฉันลาออกจากความเป็นลูกสาว หรือความเป็นแม่ สิ่งนี้ดิฉันลาออกไม่ได้”  


นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ชี้แจง อภิปรายไม่ไว้วางใจ ดีลปีศาจ และ ปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ