“ไอซ์ รัชนก” ถามเพิ่ม ทำไม “ประกันสังคม” เลือกลงทุนซื้อตึกทั้งที่ไม่มีประสบการณ์?

“ไอซ์ รัชนก” ส่งขอเอกสารถามเพิ่ม ทำไม “ประกันสังคม” เลือกลงทุนซื้อตึกทั้งที่ไม่มีประสบการณ์?

จากกรณี “น.ส.รักชนก ศรีนอก” สส.กทม.พรรคประชาชน ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลงบต่าง ๆ ของสำนักงานประกันสังคม จนนำมาสู่การใช้สูตรคำนวณบำนาญใหม่นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มี.ค.68 ไอซ์-รัชนก โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามเพื่อให้ประกันสังคมชี้แจงเรื่องการเลือกลงทุนตึก SKYY9 โดยไม่มีประสบการณ์ ดังนี้

ขอบคุณท่านเลขาประกันสังคม ที่ได้กรุณาออกมาชี้แจงเรื่องการลงทุน ในตึก SKYY9 ในเมื่อมีความจริงใจจะชี้แจง ดิฉันก็ถือโอกาสทำเรื่องขอเอกสารและขอให้ชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้

1.ทำไมสำนักงานประกันสังคมถึงเลือกลงทุนโดยการเป็นเจ้าของตึกหนึ่งตึก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความพร้อมทางด้านประสบการณ์และบุคคลากร ทั้งที่จริงสำนักงานประกันสังคมสามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด ซึ่งจะช่วยในเรื่องการบริหารจัดการและเป็นการกระจายความเสี่ยงการลงทุนที่กองทุน Pension fund ทั่วโลกพึงปฏิบัติ แต่สำนักงานกลับนำเงินทั้งก้อนไปลงทุนกระจุกอยู่ที่สินทรัพย์เพียงชิ้นเดียว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการเลือกสินทรัพย์ชิ้นนี้ทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่? (ดิฉันเดาคำตอบว่า ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มใด ทุกอย่างทำตามระเบียบและตามกฏหมาย)

2.ทางสำนักงานมีความจำเป็นแค่ไหน ในการเลือกลงทุนตึก SKYY9 ผ่านช่องทาง PE Trust โดยเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนเกือบทั้งหมด (99.7%) ทั้ง ๆ ที่หากต้องการเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวระเบียบการลงทุนก็มีทางเลือกให้สำนักงานสามารถลงทุนในตึก Skyy9 ได้โดยตรง เพียงแต่ต้องแจกแจงรายละเอียดและรับคอมเม้นจากคณะกรรมการประกันสังคมก่อนหรือว่าการลงทุนผ่าน PE Trust จะเป็นการหลบหลีกเพื่อไม่ให้คณะกรรมการฯ และผู้ประกันตนทราบถึงการลงทุนชิ้นนี้?

3.ท่านอาจลืมว่าการลงทุนใน PE Trust นี้ ยังมีภาระผูกพันอื่น ๆ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมที่สำนักงานประกันสังคมต้องจ่ายให้กับผู้ดูแลกองทรัสต์ (Trustee) ผู้จัดการกองทรัสต์ (Trust Manager) และผู้ดูแลอาคาร (Asset Manager) อีกปีละ 0.3% ของเงินลงทุน/ปี , trustee 0.1% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม (Total Asset Value) เหล่านี้คือค่าใช้จ่ายที่สำนักงานต้องจ่ายแม้ในวันที่ยังไม่สามารถหาผู้เช่ามาได้ และการลงทุนนี้จะสร้างรายได้ให้สำนักงานประกันสังคมก็ต่อเมื่อหาผู้เช่าได้เกินกว่าค่าธรรมเนียม ซึ่งมีสัญญาผูกพันปีละ 40-50 ล้านบาท หมายความว่าสำนักงานประกันสังคมลงทุนไป 6900 ล้านบาท แต่กว่าการลงทุนนี้จะสร้างรายได้ หลังจากการจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับผู้ดูแลที่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องผลักดันอะไรเลยเพราะยังไงก็ได้เงินส่วนนี้ สำนักงานประกันสังคมช่างใจดีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซะจริง ทำไมไม่เลือกหนทางที่จะประหยัดเงินค่าธรรมเนียมให้กับเงินของผู้ประกันตนให้ได้มากที่สุด ?

4.ส่วนที่ท่านกล่าวว่ามูลค่าของที่ดินสามารถเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตนั้น ต้องขออนุญาตเรียนถามท่านกลับว่าจุดประสงค์การลงทุนของ กองทุนบำนาญ (Pension fund) แบบประกันสังคมคืออะไร ใช่การลงทุนที่สร้างรายได้สม่ำเสมอทุกปีเพื่อให้เพียงพอต่อการนำเงินไปจ่ายสิทธิประโยชน์ใช่หรือไม่ หรือเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไรเพื่อคาดหวังมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตในแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลย ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมาก ท่านจะอ้างอนาคตแบบที่วิญญูชนมองยังไงก็เลือนลางแบบนี้ได้หรือ

6.แผนยุทธศาสตร์การลงทุนที่ถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบที่กล่าวถึงคือแผนการลงทุน 5 ปีล่าสุด ซึ่งกำหนดให้สำนักงานสามารถนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่นอกตลาดด้วยวิธีการแบบที่ลงทุนในตึก SKYY9 ได้เพิ่มขึ้นอีกหลาย ๆ เท่าตัวใช่หรือไม่? หากเป็นตามนั้น ผู้ประกันตนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเงินจะไม่ถูกนำไปลงทุนในตึกราคาแพงที่ไม่ได้สร้างรายได้อย่างที่ควรจะเป็นอีกหลาย ๆ ตึก ดิฉันคิดว่าสิ่งที่ท่านควรต้องทำต่อไปคือท่านต้องแสดงให้เห็นว่าสำนักงานประกันสังคมจะมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่เหมาะสม มีการกำกับดูแลที่มีธรรมาภิบาล โปร่งใส มีการเปิดเผยสินทรัพย์ที่เข้าลงทุนที่ผู้ประกันตนสามารถช่วยกันตรวจสอบว่าเป็นไปอย่างไร้ข้อเคลือบแคลงสงสัย

7.ประชาชนจะเป็นคนใช้วิจารณญาณพิจารณาเอง หากท่านมีการเปิดเผยข้อมูลด้านการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงแค่การกล่าวให้ผู้ประกันตนสบายใจและมั่นใจ เพราะความเชื่อใจและศรัทธาต้องเกิดมาจากการที่ท่านสร้างขึ้นมาไม่ใช่เกิดจากการกล่าวอ้างและการร้องขอเช่นที่ผ่านมา

* หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า ตอนนี้กองทุนกำลังจะเพิ่มวงเงินลงทุนนอกตลาด จาก 10,000ล้าน(ที่ซื้อตึก SKYY8 ไปแล้ว 7000ล้าน) เป็น 130,000ล้าน ดิฉันออกตัวก่อนว่าไม่ได้ขวางการลงทุนนอกตลาด เพราะกองทุนทั่วโลกเค้าก็ทำกัน แต่สิ่งที่กองทุนทั่วโลกมีแต่กองทุนประกันสังคมไม่มีคือ กรอบหลักเกณ์หรือมาตรฐานในการบริหารความเสี่ยง ควรต้องมีหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานอะไรบ้างที่ต้องพิจรณาก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะถ้ายังไม่มีการกำหนดกรอบ แปลว่าไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าเคสแบบตึก SKYY9 จะไม่เกิดขึ้นอีก และเงิน 130,000ล้าน ที่ควรจะเอาไปลงทุนนอกตลาดให้ได้กำไรงามๆ จะกลายเป็นบ่อเงินบ่อทองขนาดมหึมาของใครอีกหรือไม่ ดิฉันไม่อยากจินตนาการ

** ดิฉันเห็น รมต คนเก่าก็พูด ท่านเลขาก็พูดถึงว่า มีการประเมินมูลค่าโดยผู้ประเมินราคาอิสระ 2 ราย ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) โดยมีราคาประเมินตามวิธีพิจารณาจากรายได้ (Income Approach) ประมาณ 7,300 ล้านบาท และมีการประเมินโดยวิธีพิจารณาต้นทุน (Cost Approach) ประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้เข้าลงทุนจริงที่ราคาต่ำกว่านั้นในราคา 6,900 ล้านบาท พรุ่งนี้ดิฉันจะใช้ กมธ.ติดตามงบประมาณขอเอกสารไป จะได้รู้กันว่าใครประเมิน แล้วเค้ามีวิธีคิดยังไง

มีอะไรสนุกๆให้ติดตามอีกเยอะค่ะ พูดแล้วก็คิดถึงท่านสุชาติ ชมกลิ่น เสียดายที่ท่านไม่ได้มาคุยกันออกสื่อเหมือนท่านพิพัฒน์ที่น่านับถือของดิฉัน ไม่งั้นเราคงจะได้คุยกันสนุกแน่

ข้อมูลจาก : รักชนก ศรีนอก – Rukchanok Srinork