พายุฉ่ำ! “อุตุฯ” เตือนฉบับ 4 พายุฤดูร้อนถล่มไทย ตั้งแต่วันที่  16-20 มี.ค.68  

เฝ้าระวัง! กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนฉบับ 4 “พายุฤดูร้อน” เข้าถล่มไทย เริ่มตั้งแต่ 16-20 มี.ค. 68 ประเทศไทยตอนบน อากาศแปรปรวน และ ภาคใต้มีพายุฤดูร้อน – ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตก

เตือน! หลายพื้นที่อากาศแปรปรวน-เจอพายุฤดูร้อน หวั่น ส่งผลกระทบหลายจังหวัด 

วันนี้ (16 มี.ค.68) เวลา เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกมาแจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า #ฉบับที่ 4 (57/2568) ในช่วงวันที่ 16-20 มี.ค 68 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในช่วงวันที่ 16-17 มี.ค 68 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5-8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย  

โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ 

วันที่ 16 มีนาคม 2568 

ภาคเหนือ: จังหวัดน่าน, จังหวัดอุตรดิตถ์, จังหวัดพิจิตร, จังหวัดพิษณุโลก และ จังหวัดเพชรบูรณ์  

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:  จังหวัดเลย, จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดมหาสารคาม, จังหวัดกาฬสินธุ์, จังหวัดร้อยเอ็ด, จังหวัดยโสธร, จังหวัดอำนาจเจริญ, จังหวัดชัยภูมิ, จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดสุรินทร์, จังหวัดศรีสะเกษ และ จังหวัดอุบลราชธานี  

ภาคกลาง:  จังหวัดนครสวรรค์, จังหวัดชัยนาท, จังหวัดลพบุรี, จังหวัดสระบุรี, จังหวัดสิงห์บุรี, จังหวัดอ่างทอง, จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, จังหวัดราชบุรี, จังหวัดนครปฐม, จังหวัดสมุทรสงคราม และ จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก, จังหวัดปราจีนบุรี, จังหวัดสระแก้ว, จังหวัดฉะเชิงเทรา, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดระยอง, จังหวัดจันทบุรี และ จังหวัดตราด  

วันที่ 17 มีนาคม 2568 

ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดลำพูน, จังหวัดลำปาง, จังหวัดแพร่, จังหวัดกำแพงเพชร, จังหวัดสุโขทัย และ จังหวัดตาก 

ภาคกลาง:  จังหวัดอุทัยธานี, จังหวัดสุพรรณบุรี, จังหวัดกาญจนบุรี, จังหวัดราชบุรี, จังหวัดนครปฐม, จังหวัดสมุทรสงคราม และ จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล   

ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดระยอง, จังหวัดจันทบุรี และ จังหวัดตราด 

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 

ทั้งนี้สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 17-20 มี.ค. 68 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร  ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และ สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและห่างฝั่งทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย  สุกันยาณี ยะวิญชาญ   อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา  กล่าว  

ในขณะเดียวกัน การพยากรณ์อากาศในวันนี้ (16 มี.ค 68) พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในวันนี้ หลังจากนั้นจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในระยะถัดไป  ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางแห่งในภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่  

หลังจากนั้นอากาศจะคลายความร้อนลง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย 

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง 

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวระวังเรื่องอากาศแปรปรวนหนักกันด้วยนะคะ  ‘อีจัน’ เป็นห่วงค่ะ