สภาพอากาศวันนี้ (26 มี.ค. 68) ไทยยังร้อนจัด แต่แปรปรวน ฝน-ลมแรง บางที่

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดสภาพอากาศวันนี้ (26 มี.ค. 68) ไทยยังร้อนจัดทุกพื้นที่ ขณะที่สิ้นเดือนนี้ กรมอุตุฯเตือน ระวังพายุฤดูร้อน ถล่มไทยตอนบน

วันนี้ (26 มี.ค. 68) รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวและมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจาก สภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานรวมทั้งระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย โดยคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 29 มี.ค. – 1 เม.ย. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบน ประเทศเวียดนามตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างมากถึงมากเนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง

ลักษณะอากาศแบ่งตามภูมิภาค ดังนี้

ภาคเหนือ

อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก
พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 19-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส  
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.