สภาพอากาศวันนี้ (18 ก.พ.68) อุตุฯ ชี้ทั่วไทยฝนฟ้าคะนอง 10-40% 

มามืดแต่เช้า! กรมอุตุนิยมวิทยา คาดสภาพอากาศวันนี้ (18 ก.พ.68) ทั่วไทยฝนกระหน่ำ 10-40% ของฟื้นที่ 34 จังหวัด เตือนระวังลมกระโชกแรง-ฟ้าฝ่า

สภาพอากาศเริ่มร้อนแล้ว และยังมีฝนตกหนัก ขอให้ติดตามสภาพอากาศรายวันกันด้วยนะคะ

วันนี้ (18 ก.พ.68) รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ว่า โดย 18 – 24 ก.พ.68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย

โดยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ 

หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง 

และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1–2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

นอกจากนี้ ช่วง 24-26 ก.พ.68 คาดว่าจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน (พิจารณาจากลมตั้งแต่ระดับกลางๆ ( 5.5 กม.) ซึ่งจะพัดจากทางด้านตะวันตกไปทางตะวันออก) ทำให้ด้านหน้าของคลื่นกระแสลมนี้ มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง บางพื้นที่อาจมีลูกเห็บเกิดขึ้นได้ บริเวณประเทศไทยตอนบน โดยจะเริ่มมีผลกระทบทางภาคเหนือตอนบน (จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่) ก่อน

สำหรับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตก จะยังคงพัดปกคลุม ภาคเหนือตอนบน อีสานตอนบน 2-3 วัน ก่อนที่เคลื่อนผ่านไป ช่วงปลายเดือน (27 ก.พ.-4 มี.ค.68) ฝนน้อยลง เช้าอากาศเย็น บ่ายอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น รักษาสุขภาพ ช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงของการเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล สภาพอากาศมีความแปรปรวนสูง ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ) เป็นข่าวที่ยังต้องติดตามเป็นระยะๆ

ลักษณะอากาศแบ่งตามภูมิภาค ดังนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส 
และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส   
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส 
ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1–2 องศาเซลเซียส 
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี 
นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส  
อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร 
สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส 
ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

โดยรวมสภาพอากาศยังแปรปรวนในหลายพื้นที่ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ