
ช่วงปลายปี 2025 ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของประเทศไทยที่ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9-20 ธ.ค. 67 ซึ่งจะใช้ กรุงเทพมหานคร,ชลบุรี และสงขลา เป็นจังหวัดที่ใช้จัดแข่งขันกีฬาต่าง ๆ สำหรับการเตรียมความพร้อมล่าสุดนี้ ได้มีการเปิดเผยรายชื่อชนิดกีฬาที่จะใช้ทำการแข่งขันเพื่อชิงเหรียญรางวัล โดยมีทั้งหมด 50 ชนิดกีฬาด้วยกัน จบการประชุมมนตรีซีเกมส์ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ซีเกมส์ เผยว่า สำหรับอีเวนต์ที่มีการจัดชิงชัยในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2025 รวมทั้ง 569 เหรียญทอง ใน 50 ชนิดกีฬานั้นถือว่าเป็นที่สิ้นสุดและยุติแล้ว โดยหลังจากนี้คณะกรรมการที่ติดตามความคืบหน้าของการจัดซีเกมส์ 2025 ซึ่งได้รับการแต่งตั้งขึ้น โดยประกอบด้วย ประเทศไทย ซึ่งมีตนเองเป็นตัวแทน รวมถึง ประธานโอลิมปิกของมาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานการเป็นเจ้าภาพของไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะมีการประชุมสรุปความพร้อมๆทุก 3 เดือน โดยมาเลเซีย ก็จะนำรูปแบบในการจัดแข่งขันของเราครั้งนี้ไปใช้ในการเป็นเจ้าภาพปี 2027 ต่อไปด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเป็นการยืนยันว่าการแข่งขันซีเกมส์ทุกครั้งจากนี้ไปจะจัดขึ้นอย่างมีมาตรฐานตามหลักสากล

โดยจำนวนกีฬาทั้ง 50 ชนิดนั้น เป็นกีฬาที่อยู่ในแคททะกอรี 1 และ 2 เท่านั้น เป็นกีฬาที่อยู่ในโอลิมปิกเกมส์และเอเชียนเกมส์ทั้งสิ้น รวมถึงเอเชียนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ตเกมส์ ส่วนกีฬาในแคททะกอรีที่ 3 ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านจะมีได้ไม่เกิน 4 ชนิดกีฬา ซึ่งเราไม่ได้เสนอบรรจุกีฬาที่ไม่ใช่กีฬาสากลที่ไม่มีในโอลิมปิกและเอเชียนเกมส์ อย่างที่ ซีเกมส์ก่อนหน้านี้หลายๆครั้งได้บรรจุเข้าไปมากเกินความจำเป็น ซึ่งก็แน่นอนว่านับจากนี้ ตั้งแต่ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซีเกมส์ก็จะกลับมาเข้าระบบมาตรฐานของกีฬา เป็นเวทีแห่งการเริ่มต้นไปสู่การแข่งขันในมหกรรมกีฬาที่ใหญ่กว่าไม่ว่าจะเป็นเอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิกเกมส์ต่อไป
สำหรับศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะมีขึ้นระหว่าง 9-20 ธ.ค.2568 กำหนดชิงชัย 50 ชนิดกีฬา รวม 569 เหรียญทอง โดย 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ, ชลบุรี และ สงขลา ร่วมกันทำหน้าที่หลักในการเป็นเจ้าภาพ
ทั้งนี้ กีฬาที่จะทำการชิงชัยทั้ง 50 ชนิดกีฬานั้น ประกอบไปด้วย
1.กีฬาทางน้ำ
2.กรีฑา
3.ยิงธนู
4.แบดมินตัน
5.บาสเกตบอล
6.เรือแคนูและกรรเชียง
7.จักรยาน
8.ขี่ม้า
9.ฟันดาบ
10.ฟุตบอลและฟุตซอล
11.กอล์ฟ
12.ยิมนาสติก
13.แฮนด์บอล
14.ฮอกกี้
15.ยูโด
16.รักบี้
17.เรือใบ
18.ยิงปืน
19.เทเบิลเทนนิส
20.เทควันโด
21.เทนนิส
22.ไตรกีฬา
23.วอลเลย์บอล
24.มวยปล้ำ
25.ไอซ์สเก็ต
26.ไอซ์ฮอกกี้
27.ปัญจกีฬา
28.ยกน้ำหนัก
29.เบสบอลและซอฟท์บอล
30.บิลเลียดและสนุกเกอร์
31.มวยสากล
32.ฟลอร์บอล
33.อีสปอร์ต
34.มวย
35.เน็ตบอล
36.ปันจักสีลัต
37.เปตอง
38.เซปักตะกร้อ
39.สควอช
40.โบว์ลิ่ง
41.เอ็กซ์ตรีม
42.คาราเต้
43.ยูยิตสู
44.คริกเก็ต
45.วูซู
46.กาบัดดี้
47.เทคบอล
48.คิกบ็อกซิ่ง
49.วูดบอล
50.หมากรุกสากล
ส่วนกีฬาพื้นบ้าน 3 ชนิด ได้แก่ กีฬาทางอากาศ, ชักกะเย่อ และ จานร่อน