จากกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ โจ้ อายุ 43 ปี ในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในคดีคลุมถุงดำผู้ต้องหายาเสพติด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 68 เวลา 23.00 น.
วันนี้ (10 มี.ค. 68) ญาติได้นำร่าง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่ศาลาจีรวัสส์ รัชนิบูล วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมีเพื่อนร่วมรุ่น 57 เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ญาติได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนเก็บภาพนอกศาลา
ภายในศาลา ทางครอบครัวได้นำเครื่องแบบตำรวจสีกากีประดับเครื่องหมายสุดท้ายออกพ้นราชการ มาตั้งที่หน้าโลงศพ โดยทันทีที่ร่างอดีตผู้กำกับโจ้เข้ามาถึง ได้ช่วยกันเคลื่อนขึ้นไปตั้งไว้ ซึ่งทางครอบครัวขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่เข้าไปบันทึกภาพ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต และขอความเป็นส่วนตัวให้กับครอบครัว
ส่วนบรรยากาศด้านหน้าศาลา มีพวงหรีดของบุคคลใกล้ชิด รวมถึง บุคคลระดับรัฐมนตรี – นักการเมือง และอดีตผู้ที่เคยร่วมงาน ทั้งระดับผู้บังคับบัญชา และรองผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 57 และเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 41 ซึ่งทางครอบครัวอดีตผู้กำกับโจ้ ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ใด ๆ โดยทั้งหมดยังอยู่ในอาการโศกเศร้า
ขณะเดียวกัน นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของอดีตผู้กำกับโจ้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากพบแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยเปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องรอผลจากการที่แพทย์นำเลือด และชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยาและพิษวิทยา ก่อนที่ทางแพทย์จะทำรายงานส่งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ซึ่งคาดว่าผลน่าจะออกภายในเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
จึงทำให้ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าผลการตรวจเบื้องต้นของแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นั้นเป็นอย่างไร ส่วนที่ทางครอบครัวมาพบกับแพทย์วันนี้ ก็เพื่อพูดคุยเบื้องต้นว่า ผลการตรวจจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมเมื่อวานนี้นั้นเป็นอย่างไร ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ได้ส่งประเด็นข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม
โดยหลังจากนี้ หากผลชันสูตรเสร็จสิ้น ต้องมาดูอีกทีว่ายังมีข้อสงสัยอะไรอีกหรือไม่ แต่ก็คงไม่ส่งไปชันสูตรรอบที่ 3 ที่ไหนอีกแล้ว หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสวดอภิธรรมศพก็จะเก็บร่างเอาไว้ก่อน ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของครอบครัว
ทั้งนี้ จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ทางแพทย์นิติเวชได้มีการสแกนร่างอดีตผู้กำกับโจ้ เบื้องต้นนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เช่นเดียวกับที่มีรายงานข่าวว่า แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อ้างว่ามีความเห็นว่าอดีตผู้กำกับโจ้ทำร้ายตัวเองนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะต้องรอรายงานผลอย่างละเอียดก่อน
ส่วนในกรณีที่ กรมราชทัณฑ์ได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ ทนายความกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการอ่านแถลงการณ์ฉบับดังกล่าว แต่ประเด็นที่อ้างว่าอดีตผู้กำกับโจ้ มีอาการป่วยทางจิตเวชนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะญาติได้ไปเยี่ยมทุกสัปดาห์ ก็พบว่ามีอาการปกติ และทุกครั้งที่ตนเข้าไปเยี่ยมกับพูดคุยกับอดีตผู้กำกับโจ้ มีสติสัมปชัญญะปกติ พูดคุยแต่เรื่องของคดีความ โดยอดีตผู้กำกับโจ้ ยังคงรอเรื่องของการอุทธรณ์ในชั้นศาล ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องของทรัพย์สินที่อยู่ด้านนอกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ จากประเด็นที่ทางกรมราชทัณฑ์ แถลงการณ์อ้างว่าอดีตผู้กำกับโจ้ ได้นำกล้องของทางเรือนจำไปใช้โดยไม่อนุญาต ต้องนำเรื่องดังกล่าวไปพูดคุยกับญาติ แต่ตนไม่เคยได้ยินเรื่องราวดังกล่าว แต่ประเด็นดังกล่าวจะนำมาสู่การที่อดีตผู้กำกับโจ้ ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยและถูกย้ายไปแดน 5 หรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ เช่นเดียวกับประเด็นที่อ้างในแถลงการณ์ว่า อดีตผู้กำกับโจ้ ขอยุติเรื่องการสอบสวนกรณีถูกทำร้ายร่างกาย
อีกทั้งประเด็นล่าสุด ที่กรมราชทัณฑ์ได้เปิดเผยขนาดของผ้าขนหนู เผยว่า ตนก็ยังไม่เห็นเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ตนก็ไม่สามารถเข้าไปยังที่เกิดเหตุที่อดีตผู้กำกับโจ้เสียชีวิตได้ จึงไม่เห็นขนาดผ้าของจริง
พร้อมยืนยันว่า ทางครอบครัวไม่ได้ถูกกรมราชทัณฑ์หรือมีผู้ใหญ่สั่งไม่ให้พูดหรือออกมาให้ข่าวในช่วงนี้ ส่วนกรณีที่ทางเรือนจำมีคำสั่งย้ายผู้คุมที่เคยมีปัญหากับอดีตผู้กำกับโจ้นั้น ตนก็เพิ่งรับทราบจากข่าวและคงไม่ให้ความเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวนั้นเป็นไปเพื่อลดกระแสสังคมหรือไม่ เพราะมองว่า ก็เป็นการทำตามขั้นตอนกระบวนการของราชการ ส่วนกรณีที่น้องสาวของ ผกก.โจ้ ทำหนังสือขอให้ย้ายรักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมนั้น ก็เป็นไปตามเอกสารที่ตนได้รับ
ทั้งนี้ ในวันนี้มีกำหนดการพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.00 น. และสวดอภิธรรมศพในเวลา 18.30 น. โดยพิธีสวดอภิธรรมศพ จะมีไปจนถึงวันที่ 16 มีนาคมนี้ และไม่มีกำหนดการฌาปนกิจศพแต่อย่างใด ตามความประสงค์ของครอบครัว