
สวัสดีปีใหม่ไทยลูกเพจทุกคนค่ะ นับวันก็ใกล้เข้ามาทุกทีกับประเพณีสำคัญของไทย อย่าง “วันสงกรานต์ 2568” วันนี้ ‘อีจัน’ เลยอยากพาทุกคนมาเตรียมอุปกรณ์สรงน้ำพระที่บ้าน พร้อมขั้นตอนและเคล็ดลับสรงน้ำแบบง่ายๆกันค่ะ แต่อันดับแรกเรามารู้จักกันก่อนว่า การสรงน้ำพระคืออะไร เเละมีความสำคัญมากเเค่ไหนในประเพณีนี้

การสรงน้ำพระ คือหนึ่งในพิธีสำคัญตามขนบธรรมเนียมของไทย ซึ่งปฏิบัติมาทุกปีตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยเป็นการทำความสะอาดพระพุทธรูป หิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชา รูปภาพ ไปจนถึงที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป มีอีกชื่อเรียกว่า “การถวายเครื่องเถราภิเษก” โดยมีความเชื่อว่าพิธีกรรมนี้จะแทนการชำระพระวรกายของพระพุทธเจ้าให้ปราศจากมลทิน ให้เกิดมุทิตาจิต เบิกบานใจ สุขใจ และสิริมงคลกับผู้ปฏิบัติและสมาชิกในบ้าน พร้อมทั้งแทนความเคารพเลื่อมใสในพระรัตนตรัยทั้ง 3 ประการ
อุปกรณ์สรงน้ำพระที่บ้าน
– ผ้าเช็ดทำความสะอาดผืนใหม่ หรือฟองน้ำสะอาด ๆ
– ขันใส่น้ำสำหรับเช็ดทำความสะอาดทั่วไป
– โต๊ะที่ประดิษฐานชั่วคราว
– พานและถาดรองตามความเหมาะสม
– เครื่องหอม (ดอกไม้หอม, พวงมาลัย, น้ำหอม/น้ำอบ/น้ำปรุง)
– ขันใส่น้ำ สำหรับสรงน้ำพระ

ขั้นตอนการสรงน้ำพระที่บ้าน
1. เริ่มจากอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดเบื้องต้นด้วยผ้าผืนใหม่หรือฟองน้ำสะอาดทีละองค์ ถ้าหากเป็นกรอบรูปก็ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำบิดหมาดแล้วเช็ด
2. อัญเชิญพระพุทธรูปทั้งหมดไปประดิษฐานไว้ที่พาน โดยมีถาดรองบนโต๊ะ พร้อมทั้งประดับโต๊ะด้วยดอกไม้หอม กลีบดอกไม้ และพวงมาลัย ให้สวยงาม
3. เตรียมเครื่องหอม พวกดอกไม้หอม พวงมาลัย น้ำหอม น้ำอบ หรือน้ำปรุง ใส่ในขันน้ำสะอาดไว้สำหรับสรงน้ำพระ
4. ทำความสะอาดที่ประดิษฐานองค์พระประจำบ้าน เช่น หิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชา และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับที่ประดิษฐานองค์พระให้สะอาด
5. ตั้งจิตอธิษฐานและร่วมสรงน้ำพระไปพร้อม ๆ กัน โดยการนำขันน้ำที่ใส่เครื่องหอมเตรียมไว้มาสรงที่พระพุทธรูปให้ครบทุกองค์ พร้อมกับกล่าวขอขมา
-ก่อนอัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานที่สรงน้ำชั่วคราวให้กล่าวบทอัญเชิญพระพุทธรูปมาสรงน้ำ โดยการตั้งนะโมฯ 3 จบ และสวดตามด้วย
“ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต”
หลังจากนั้นก็อัญเชิญพระพุทธรูปไปยังที่ประดิษฐานชั่วคราว
-ก่อนเริ่มสรงน้ำพระพุทธรูปด้วยน้ำสะอาดที่ปรุงด้วยเครื่องหอม ให้ตั้งนะโม 3 จบ และตามด้วยคำกล่าวสรงน้ำพระพุทธรูป
“อิมินา สิญฺจะเนเนวะ โรโค โสโก อุปัททะโว นิพพันตุ สัพพะโส เอเต สุขี โหนตุ นิรันตะรัง”
เพื่ออธิษฐาน แล้วค่อยตักน้ำสรงพระพุทธรูปต่อไป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? การสรงน้ำพระไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ อย่างไรก็อย่าลืมเก็บทริกไปทำตามกันนะคะเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตต่อไปค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Buddhachinnawong ศูนย์ปฏิบัติธรรมพุทธชินวงศ์ และ เฟซบุ๊ก หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา