
จากเหตุการณ์สนั่นโซเชียล เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 กรณีหนุ่มซิ่งรถหรู BMW ปาดเบียดรถกระบะ บริเวณถนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ต.บึงคําพร้อย อ.ลําลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นเหตุให้รถกระบะเสียหลัก โดยลุงกับป้าภายในรถ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ภายหลังจะทราบว่าเจ้าของรถ BMW คือ “พีช” สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชายของ “นายกฯ เบี้ยว” กฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี

วันนี้ (18 เม.ย. 68) สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการคนดังนั่งเคลียร์ ถึงประเด็นดังกล่าว เริ่มว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษฝั่งผู้เสียหาย ยอมรับว่าตกใจมาก และไม่คิดว่าจะร้ายแรงจนทำให้ลุงและป้า ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหลังเกิดเหตุ พีช ได้เดินทางไปอยู่ที่บ้านเพื่อน ไม่ติดต่อกับใคร
ต่อมา นายกฯเบี้ยว ยอมรับว่า ตนรู้ข่าวในเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยตนพยายามติดต่อหาลูกชาย กระทั่งประมาณ 19.00 น. สามารถตามตัวพีทจนเจอ ซึ่งในตอนนั้นพีชบอกว่า “ผมถูกปาดหน้า ก่อนจะขับรถตามคุณลุง หวังว่าจะให้จอดและเคลียร์กัน แต่ขณะนั้นขับรถมือเดียว จนรถเสียหลักไปเบียดกระบะคุณลุง”
ส่วนประเด็นที่ออกมาบอกว่า “ลูกชายขับรถดี” นายกฯ เบี้ยว กล่าวว่า ผมตอบตามความจริง ว่าที่ผ่านมาพีชไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ เพิ่งจะเกิดเรื่องในครั้งนี้ เราไม่ได้จะช่วยเหลือลูกชาย ผมเห็นใจลุงและป้ามาก ซึ่งไม่ว่าลูกเราจะถูกหรือผิด เราจะดูแลลุงและป้า เพราะเป็นห่วงมาก
ต่อมา มีการเปิดวิดีโอขณะ รถ BMW ขับออกมาก่อนไปเจอรถลุงและป้า พีท อธิบายว่า ขณะนั้นกำลังเก็บของอยู่ข้างเบาะคนขับ ยอมรับว่าเป็นการประมาท ไม่ได้ตั้งใจจะปาดหน้ารถ
ระหว่างที่รถ BMW ออกจากด่านมาพบรถลุงป้า พีช อธิบายว่า ในคลิปจะเห็นได้ว่ารถพุ่งชนแบริเออร์ ซึ่งจังหวะนั้นรถกระบะลุงป้าเบียดเข้ามา ทำให้รถตนเสียหลักขูดแบริเออร์ ซึ่งตอนนั้นพยายามชะลอความเร็วรถแล้ว ซึ่งไม่คิดว่ากระบะจะปาดเข้ามาในเลนของตัวเอง ในขณะนั้นไม่ทันได้บีบแตรด้วย เพราะมันกะทันหัน

ประเด็นขับรถไล่กัน พีช อธิบายว่า พีชตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนั้นตนอยากจะให้กระบะจอดมาลงคุย ตนจึงตีรถคู่กัน พร้อมเปิดกระจกจนเห็นว่าเป็นคุณลุงและป้า ซึ่งตอนนั้นผมขับรถมือเดียว จนเสียหลักไปเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาที่จะขับรถชนจริง ๆ
หลังจากรถ BMW เบียดรถกระบะจนชนแบริเออร์ พีช อธิบายว่า จังหวะนั้นตนตั้งใจจะลงมาดูอาการลุงและป้า เพราะรถชนแรงมาก ซึ่งตอนนั้นได้ยินลุงซี่โครงหัก และตนก็ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจจนไปพูดคุยที่โรงพัก
คลิปที่ลงจากรถมาพูดคุยก่อนผู้เห็นเหตุการณ์ พีช อธิบายว่า ตอนนั้นมีคนมาต่อว่าตนว่าขับรถชนลุง ซึ่งตนพยายามอธิบายว่า รถลุงชนรถผมก่อน ซึ่งผมต้องการจะเคลียร์ที่รถถูกชน ส่วนประเด็นที่พูดอ้างว่าพ่อเป็นนายกฯ ตนพูดด้วยอารมณ์โมโห ยอมรับผิดจริง

ประเด็นที่คุณลุง-ป้ายกมือไหว้ขอโทษ พีช อธิบายว่า ตอนนั้นตนไม่เห็นว่าคุณป้ายกมือไหว้ขอโทษ ซึ่งถ้าเห็นคงไม่ทำเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน เพราะตนก็รู้สึกผิดที่เห็นลุงและป้าบาดเจ็บ ซึ่งตอนนี้ตนก็เครียด ต้องขอโทษคุณลุงและป้าด้วย
ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่า พีชไปข่มขู่คนในเหตุการณ์ หรือพยาน พีช อธิบายว่า ตนโทรไปแจ้งให้ (คนขับรถอัลพาร์ด) ลบคลิปจริง ๆ ก่อนที่ฝ่ายพลเมืองดีจะลบคลิป
ประเด็นที่ถูกอ้างว่า มีการข่มขู่ลูกของลุง-ป้า พีช อธิบายว่า ผมไม่ได้ข่มขู่ ผมบอกว่ารถคุณลุงมาเบียดผมชนแบริเออร์ และตนเรียกให้จอด แต่กระบะไม่ยอมจอด ซึ่งก็พูดคุยกันด้วยดี มีการขอเบอร์ติดต่อ แต่ในตอนนั้นโทรศัพท์ตนถูกล็อก 7 ชั่วโมง ข้อมูลหายหมด ซึ่งตอนให้เบอร์ลูกผู้บาดเจ็บ โทรศัพท์ถูกล็อกไปแล้ว จึงไม่สามารถติดต่อกลับไปหาฝ่ายผู้บาดเจ็บได้

ต่อมา มีการโฟนอินระหว่างรายการโหนกระแส และ คนดังนั่งเคลียร์ โดยมีลูกสาวและลูกชายของผู้บาดเจ็บเข้าร่วมสาย
ด้าน นุ๊ก ลูกสาวลุง เปิดเผยว่า ตนเกิดความติดใจ เพราะตอนแรกฝ่ายพีช แจ้งว่า พ่อแม่เราขับรถไปเบียดเขา บอกพ่อแม่เป็นคนผิด ซึ่งตนพยายามบอกว่า เราไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ตนมีคลิปจากพลเมืองดีส่งมาให้ ซึ่งจะต้องดูก่อนและและส่งหลักฐานให้ร้อยเวร และยอมรับว่าติดใจที่ทำไมตั้งแต่เกิดเหตุ พีท ไม่เคยติดต่อมาแสดงความขอโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบ แต่กลับมาออกรายการก่อน
พีช ตอบกลับว่า ก่อนอื่นพีชต้องขอโทษด้วย ที่ไม่ได้เข้าไปเยี่ยม ซึ่งยอมรับว่าตนตกใจและไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จนได้ทำการปรึกษาคุณพ่อ ว่าอยากไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ และพร้อมจะเยียวยาค่ารักษาพยาบาลลุง-ป้า และค่ารถทั้งหมด ซึ่งพีทยืนยันว่าจะไปเยี่ยมคุณลุงและป้าที่โรงพยาบาลแน่นอน

ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นหลาน ผบ.ตร. พีชยืนยันว่า ตนพูดแค่ว่าตนเป็นลูกหลานตำรวจ แต่ไม่ได้พูดว่าอาต่าย แต่ด้านลูกสาว ยืนยันว่า พีท เป็นคนพูดว่า อาเป็น ผบ.ต่าย ซึ่งตำรวจทางหลวงท่านหนึ่งก็ได้ยิน
กังวลใจหรือไม่ว่าประเด็นข่าวนี้จะมีผลกระทบกับการลงสมัคร สท.? พีชกล่าวว่า เรื่องนี้มันเป็นคนละส่วนกัน ถ้ามองว่าตนขับรถชน กับการดูแลประชาชนมันคนละส่วนกัน
ส่วนประเด็นที่พีชลงบันทึกประจำวัน ที่บอกว่ารถลุงมาชนรถพีท อาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จนั้น พีช อธิบายว่า ในตอนที่แจ้งความ ตนไม่ได้พูดว่ารถลุงมาชน แต่แค่บอกว่ารถลุงมาเบียดเข้าแบริเออร์ ตนยืนยันว่าตนแจ้งความลุงในตอนที่พุ่งชนรถพีทเข้าแบริเออร์
พีท กล่าวรู้สึกสำนึกผิด พร้อมขอโทษกับสิ่งที่ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตนยอมรับว่าคิดน้อยไปมาก รู้สึกสำนึกผิดจริง ๆ และจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก พร้อมขอโอกาสจากสังคม
ด้าน ทนายเจมส์-นิติธร แก้วโต ให้ความเห็นทางกฎหมายว่า เหตุการณ์นี้ประมาทร่วมกัน เพราะรถกระบะเป็นไปได้ไม่รู้ว่าเป็นคอขวด ที่ต้องให้รถทางหลักไปก่อน ส่วนคุณพีชก็ขับเร็ว คือ ฝ่ายหนึ่งไม่ชะลอรถ อีกฝ่ายเปลี่ยนเลนกะทันหัน ซึ่งตอนนี้ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร พ.ร.บ.ทางหลวง และการขับรถโดยประมาท รวมทั้งต้องไปดูว่าจะเป็นคดีอาญาหรือไม่ เพราะการขับขี่ได้เล็งเห็นผลจะทำให้ได้รับความบาดเจ็บหรือไม่ ต้องดูพยานหลักฐานต่อไป
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล นักอาชญาวิทยา กล่าวว่า แบ่งเป็น 2 ช่วงของเหตุการณ์ช่วงที่ 1 คือพ้นด่านมาแล้วเกิดอุบัติเหตุ และเหตุการณ์ช่วงที่ 2 ลักษณะการตาม จะทำให้เกิดเหตุปะทะได้ และการตามมีการโทรแจ้งตำรวจหรือไม่ เพราะฉะนั้นการที่ตามจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนเจตนาจะทำให้เป็นอุบัติเหตุดูคลิปและตัดสินใจกันเอง ซึ่งถ้าเกิดแบบนี้ควรประสานตำรวจจะดีกว่าไปตามและเกิดการปะทะแบบนี้ เพราะบนท้องถนนมีการติดกล้องไว้ขอภาพได้

