รมว.ยุติธรรม ย้ำ ราชทัณฑ์ ต้องเปิดกล้อง CCTV ตัวเต็ม คดีอดีต ผกก.โจ้

ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ย้ำ กรมราชทัณฑ์ต้องเปิดกล้อง CCTV ตัวเต็มคดี ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ และต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจเข้าสืบสวนสอบสวน

จากกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องหาคดีใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตในโรงพักเมืองนครสวรรค์ โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค.68 เวลา 20.50 น. อดีต ผกก.โจ้ใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตในห้องขังเรือนจำคลองเปรม และญาติยังคาใจในการเสียชีวิตนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

วันนี้ (10 มี.ค. 68) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหลังตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตในเรือนจำของ ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ ว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้กรมราชทัณฑ์และหน่วยงานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องนำหลักฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่ออกมาเปิดเผยชี้แจง โดยเฉพาะในประเด็นที่ประชาชนและญาติสงสัย แต่จะต้องไม่ขัดกับหลักกฎหมายหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น โดยขอให้แยกคดีนี้เป็น 2 ส่วน คือคดีการเสียชีวิต และคดีมูลเหตุจูงใจที่นำไปสู่การเสียชีวิต  และส่วนที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ไปสังเกตการณ์การประชุมร่วมกับผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรรมเมื่อวานนี้นั้น ยังไม่มีรายงานเข้ามา โดยต้องให้เวลาทำงาน แต่ยืนยันว่าเรามีความเสียใจกับผู้สูญเสีย และสิ่งที่เขาต้องการที่สุดคือความเป็นธรรม ซึ่งกระทรวงยุติธรรมก็จะมาช่วยดูแลเรื่องนี้

ส่วนการที่ครอบครัวยังคงติดใจการแถลงข่าวของกรมราชทัณฑ์ที่มีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ครอบครัวได้รับข้อมูลมานั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ถ้ามีคนกลางไปสอบด้วยความรวดเร็ว และในคณะอนุกรรมการฯ ก็มีตำรวจอยู่ด้วย ซึ่งต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ในฐานะคนกลางได้ แม้เรื่องจะเกิดขึ้นในเรือนจำก็ตาม ทางเรือนจำก็ต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจ

ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเรือนจำขัดขวางไม่ให้ตำรวจเข้าสอบปากคำ “อดีตผู้กำกับโจ้” กรณีถูกทำร้ายร่างกาย มีใบรับรองทางการแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ชัดเจน ว่าถูกของแข็งกระแทกเข้าที่ลำตัวนั้น ถ้าตรวจสอบแล้วการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการซ้อมทรมานฯ กรมราชทัณฑ์มีมาตรการทางปกครองอยู่แล้ว และในส่วนของผู้คุมที่หากทำร้ายร่างกายนักโทษจริง ก็มีโทษทางวินัยขั้นร้ายแรง รวมถึงต้องดำเนินคดีอาญาโดยไม่ละเว้น แต่ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อน พร้อมย้ำว่าตามระเบียบแล้ว หากเกิดการกระทำความผิดอาญาขึ้น ไม่ว่าจะส่วนไหนของประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ในเรือนจำ ตำรวจต้องสอบสวนได้หมด ระเบียบต่าง ๆ ต้องไม่ใหญ่กว่าสิทธิ์ประชาชน แต่อาจเป็นปัญหาเรื่องของการประสานงานที่คลาดเคลื่อน

ทั้งนี้แม้ว่า “อดีตผู้กำกับโจ้” จะเสียชีวิตแล้ว แต่คดีอาญาก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะผู้กระทำความผิดยังมีชีวิตอยู่จนกว่าจะหมดอายุความ โดยสามารถสอบสวนจากพยานหลักฐานอื่น เช่น พยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด และพยานบุคคล ซึ่งเชื่อว่าไม่มีการปิดบังพยานหลักฐาน เพราะหลักฐานทั้งหมดที่ได้มา ก็มาจากเรือนจำ พร้อมย้ำว่ากรมราชทัณฑ์ควรนำกล้องวงจรปิดตัวเต็ม ที่ไม่ผ่านการตัดต่อมาเผยแพร่ และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ควรจะอนุญาตให้เผยแพร่ด้วย

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า พยายามยกระดับเรือนจำให้เป็นสถานที่ฟื้นฟู เพื่อให้คนมีชีวิตใหม่ และเป็นคนใหม่ออกไปสู่สังคม  เพราะเรือนจำไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร หากใครที่ก้าวพลาด จะเข้าเรือนจำก็ต้องมีคำพิพากษาของศาล แต่เรือนจำไม่ใช่ศาล เราต้องไม่อคติกับใคร หากใครถามว่าเป็นแดนสนธยาหรือไม่ ก็คงต้องไปถามชาวบ้าน