
หลังจากช่วงบ่ายวานนี้ (28 มี.ค.68) เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ขนาด 7.4 ลึก 10 กม. ที่ประเทศเมียนมา รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี สะเทือนถึงหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และภาคเหนือ จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรม อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไทย (สตง.) มูลค่า 2 พันล้านบาท ถล่มลงมา
ล่าสุดวันนี้ (29 มี.ค.68) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลภาค กทม. และอดีตนายกสภาวิศวกรสถานแห่งประเทศไทย ลงพื้นบริเวณการก่อสร้างซากอาคารสำนักงานสำนักการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ (สตง.) ถนนกำแพงเพชร ย่านจตุจักร ที่ถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหว โดยกล่าวว่า ตึกดังกล่าว ตั้งอยู่บนเสาเข็ม ดังนั้นกรณีดินอ่อนไม่ใช่แน่นอน ตึกสูง 33 ชั้น ลิฟท์ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของตึกก็เสร็จแล้ว เหลือแต่ข้างนอก ลักษณะการพังมันเหมือนระเบิดเลยเราบอกอะไรไม่ได้มาก เพราะต้องไปดูรายการคำนวณไปเก็บตัวอย่าง และจากที่ดูภาพสโลโมชั่น เสาที่รับน้ำหนักตึกระเบิดทันที

ซึ่งทั้งคานและเสา น่าจะเชื่อมกับลิฟท์แต่สุดท้ายมันพังลงมา ดังนั้นวันนี้เราไม่ควรสันนิษฐานอะไรไปเกินกว่านี้มันเป็นเรื่องที่เราต้องดูตั้งแต่การออกแบบการก่อสร้าง ต้องใช้เวลาและต้องเก็บข้อมูล เราไม่โทษใครแล้วไม่ต้องมีใคร แต่นี่คือบทเรียนราคาแพงทั้งประวัติศาสตร์ เราต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมมันพัง วันนี้เราต้องยอมรับว่าเราต้องอยู่กับภัยแผ่นดินไหวให้ได้
การที่อยู่กับมันให้ได้ข้อแรกเราต้องรู้ว่ามันทำไมพัง เพื่อจะปรับแก้การออกแบบการก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารที่มีความเสี่ยง ตอนนี้สำคัญที่สุดคือกู้ภัยและหาสาเหตุให้เจอ
เราตั้งทีมวิศวกรอาสามาวันนี้ เรามาด้วยความเป็นห่วง พร้อมที่จะช่วยเหลือทางรัฐบาลและ กทม. แต่เราไม่มีประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน ที่ผ่านมาก็มีแค่อาคารประมาณ 6 ชั้นถล่ม ดังนั้นผมคิดว่าอันดับแรกเราควรจะขอความช่วยเหลือจากประเทศที่มีความรู้และประสบการณ์ตรงจริงๆ ประเทศที่ผมคิดคือประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้รัฐบาลญี่ปุ่นก็เสนอความช่วยเหลือเข้ามาแล้ว ถ้ามีอะไรที่ทางเราประสานทางญี่ปุ่นได้ก็ยินดี

ลักษณะการพังทลายนี้เราเห็นได้ว่ามันเหมือนอาคารระเบิดเลย บอกได้เลยว่าไม่ปกติ ยามว่าในช่วงที่เราช่วยเหลือให้มีผู้รอดชีวิตมากที่สุดเราต้องเก็บข้อมูลให้มากที่สุดไปพร้อมกัน
วันนี้เราไม่โทษใคร แต่เราต้องเรียนรู้แล้วว่าเราต้องอยู่กับภัยแผ่นดินไหว เพราะวันนี้รอยเลื่อนสะกายมาส่งผลกระทบถึงกรุงเทพฯ ได้โดยตรง และอีกเรื่องหนึ่งคืออยากให้เฝ้าระวังรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรอยเลื่อนใหญ่ของพม่า ทางรัฐบาลต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
อย่างวันนี้ เท่าที่ดูจากประสบการณ์ที่เราพอมี พบว่า เครื่องมือไม่พอจริงๆ จำเป็นที่จะต้องตั้งเครนชั่วคราวมาช่วย แขนของแม็คโครอาจจะไปไม่ถึง เข้าไปกว่านี้ก็อันตราย ยอมว่าประสบการณ์ของเรายังมีไม่พอ เราต้องการความช่วยเหลือด่วนจากผู้เชี่ยวชาญ ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญสูง และเป็นประเทศที่มีเครื่องมือ
นี่เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น เพราะเราก็ยังมีประสบการณ์ไม่พอ เราไม่เคยเจอแบบนี้ในช่วงชีวิตเราเลย ลักษณะนี้อาจจะต้องเป็นเดือน วันนี้เราต้องโฟกัสว่าเราจะช่วยชีวิตออกไปยังไงและทีมงานกู้ภัยต้องปลอดภัยด้วย

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า กฎหมายในเรื่องพระราชบัญญัติควบคุมอาคารของเราไม่ได้ล้าหลัง มีการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2522 หรือแม้แต่กฎกระทรวงของกระทรวงมหาดไทยก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นปี 2564-2565 ก็ระบุเรื่องแผ่นดินไหวมาแล้ว จะเห็นว่าตึกอื่นปลอดภัยถึงแม้จะมีรอยร้าวแต่ไม่พังทลาย ดังนั้น ผมบอกเลยว่านี่คือผิดปกติ และพูดไม่ได้นะว่าตึกระหว่างการก่อสร้างจะพังลงมา มันต้องปลอดภัย 100% ดังนั้นนอกจากภารกิจช่วยชีวิตคน ภารกิจในการหาความจริงก็ต้องตามมาด้วย
‘อีจัน’ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ


