“ทนายสายหยุด” หยุดแล้ว! ขอถอนตัว ไม่รับทำคดีทนายตั้ม 

“ทนายสายหยุด” หยุดแล้ว! ขอถอนตัว ไม่รับทำคดีทนายตั้ม คงเหลือแค่ฐานะเพื่อน ยัน! ไม่ได้ทะเลาะ แค่แนวทางสู้คดีไม่ตรงกัน

ยังคงร้อนแรงไม่แผ่วค่ะ สำหรับกรณีทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา ถูกจับในข้อหา ฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน หลังจาก น.ส.จตุพร หรือเจ๊อ้อย เข้าแจ้งความว่าทนายตั้ม ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท 



เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 67 ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู อดีตทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังมีกระแสข่าวว่าทนายสายหยุด จะยกเลิกการว่าความให้กับทนายตั้ม โดยยอมรับว่าตนเองได้ยุติการบทบาทการเป็นทนายความให้กับทนายตั้มแล้วนั้น เป็นจริงตามกระแสข่าวที่ปรากฎ  

หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทนายตั้ม ในคดีเงิน 39 ล้านบาท ที่เจ๊อ้อยเพิ่งแจ้งความดำเนินคดีไปเป็นคดีที่ 4 ซึ่งเมื่อตนทราบข่าวและได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดี รวมถึงทราบว่าจะมีการรวมคดีดังกล่าวเข้าไปกับคดีเก่าอีก 3 คดีที่ได้ทำไว้ ซึ่งจะทำให้เป็นคดีฟอกเงิน จากเดิมซึ่งเป็นแค่คดีฉ้อโกง ส่วนตัวตนมองว่าทนายตั้ม สู้ไม่ไหว จึงขอให้ทนายตั้ม รับสารภาพ และคืนเงินเจ๊อ้อยในส่วนนี้ พร้อมย้ำว่าสาเหตุหลักที่ยุติบทบาทคือเรื่องแนวทางที่แตกต่างกัน  

กระบวนการยุติบทบาททนายความของตัวเองนั้น ตนได้เข้าไปแจ้งให้ทนายตั้ม ทราบแล้ว ส่วนในการแต่งตั้งทนายนั้นไม่ได้ยื่นในชั้นศาล เป็นแต่งตั้งทนายเพื่ออาศัยสิทธิ์ในการเข้าเยี่ยมเท่านั้น ในเรื่องของค่าจ้างทนาย ตนได้รับมาแล้วก็จะส่งคืนให้ทนายตั้ม ไปตามสัดส่วน ยืนยันว่าไม่มีทะเลาะกันเรื่องเงิน ทำแค่ไหนหักแค่นั้น  

ส่วนอีก 3 คดี ตนมองว่ายังสามารถต่อสู้ได้ แต่ทนายตั้ม ยืนยันว่าจะสู้ทุกคดี จึงตอบกลับไปว่าหากจะสู้ทุกคดีส่วนตัวคงเป็นทนายความให้ต่อไม่ได้ เนื่องจากแนวทางการทำคดีไม่ตรงกัน ตอนนี้จึงถือว่ายุติบทบาทการทำคดีให้กับทนายตั้มแล้ว  

ในส่วนที่ทนายตั้ม ยืนยันว่าจะต่อสู้คดีต่อนั้น ทนายสายหยุด มองว่าทนายตั้ม อาจจะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ แต่ต้องบอกว่า เนื่องจากทนายตั้ม อยู่ในเรือนจำจึงไม่ได้รับรู้ข่าวสารภายนอกมากนัก ในขณะที่ตนอยู่ข้างนอกและเห็นข้อมูลผ่านสื่ออยู่ตลอด และเป็นข้อมูลใหม่ที่มีความชัดเจนในคดีมาก และจะสามารถแตะทุกขั้นตอนที่เข้าข่ายการทำความผิดได้  

ทั้งนี้ ทนายสายหยุด ยังเผยอีกว่า ทนายตั้ม เคารพการตัดสินใจของตน เหมือนที่ตนก็เคารพการตัดสินใจของเขา ส่วนท่าทีของทนายตั้ม นั้น ก็มีความเครียดและกังวลบ้างเป็นธรรมดา แต่ทนายตั้ม พอทราบมาบ้างแล้วจากญาติๆ ว่าตนจะหยุดว่าความให้ เพราะส่วนตัวก็เคยบอกไปว่าหากเล็กมาให้ปากคำเมื่อไหร่ว่าได้ให้เงิน 20 ล้านบาทกับทนายตั้ม แล้วทนายตั้ม จะปฎิเสธว่าอย่างไรว่าไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามข่าวที่ปรากฏมีทั่งการลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ ให้นำรถไปรับเงิน และขอธนบัตรใบใหม่ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับคดีและเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งตนเองและญาติก็ได้เข้าไปรายงานทนายตั้ม เป็นระยะอยู่แล้ว 

ส่วนเอกสารที่อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาเปิดเผยเอกสาร บางส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุที่ทำให้ทนายสายหยุดยุติบทบาทนายความหรือไม่นั้น ทนายสายหยุด ยอมรับว่าเรื่องเอกสารก็เป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ตนได้สังเกตุเห็นเอกสารที่อาจารย์ปานเทพออกมาเปิดเผย และได้เทียบกับเอกสารที่ตนมี ซึ่งไม่ตรงกัน โดยเอกสารที่ถืออยู่นั้นเป็นเพียงฉบับร่าง ไม่มีลายมือชื่อของคู่สัญญาซึ่งตนไม่ได้นำไปอ้างใช้และไม่ได้ส่งให้กับตำรวจ เนื่องจากที่ได้ขอเวลาตำรวจไว้แล้วว่าขอ 15 วัน ถึงจะอ้างเอกสารประกอบคดีให้กับทนายตั้ม แต่เมื่อเห็นว่าเอกสารไม่เหมือนกัน จึงทำให้ไม่แน่ใจว่าเอกสารที่ถืออยู่นั้นเป็นต้นฉบับหรือไม่ ซึ่งหากไม่ใช่ต้นฉบับและนำไปอ้างใช้ก็กลายเป็นว่าทนายตั้ม จะมีความผิดเพิ่ม รวมถึงตนก็จะมีความผิดไปด้วย ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยปรึกษาด้านคดีกับอาจารย์ปานเทพ เพราะอาจารย์ปานเทพไม่ใช่ติวเตอร์ของตน 

สำหรับเอกสารดังกล่าวได้นำไปถามทนายตั้ม แล้ว ทนายตั้ม อ้างว่า อาจจะแค่เคาะแถวไม่ตรงกันเฉยๆ ซึ่งเอกสารมันมีหลายไฟล์ แต่เป็นเอกสารตัวเดียวกัน ส่วนนี้ทนายตั้ม ก็จำไม่ได้ ซึ่งตนก็มองว่าเป็นไปได้เพราะเอกสารสามารถทำฉบับร่างได้หลายฉบับแต่เอกสารที่มีลายเซ็นมีแค่ฉบับเดียว ซึ่งสุดท้ายเอกสารที่จะนำไปทำคดีต้องเป็นเอกสารที่มีลายเซ็นเท่านั้น 

สำหรับทนายคนต่อไปที่จะมารับทำคดีต่อจากคนเองนั้น ตนมองว่าขึ้นอยู่กับทนายตั้ม ว่าจะเรียกใช้งานใคร ส่วนตัวเองคงเหลือแค่ฐานะเพื่อนกันเท่านั้น อาจจะไปเยี่ยมสารทุกข์สุขดิบ แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับคดี พร้อมยืนยันไม่มีการโกรธเคืองกัน 

ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตาดูกันต่อค่ะ ว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร หากมีความคืบหน้า ‘อีจัน’ จะอัปเดตให้ทราบ