
หลังจากโซเชียลต่างฮือฮาและแห่ชื่นชมไอเดียสุดเก๋ “พวงหรีดชุดนักเรียน” และ “พวงหรีดข้าวสาร” แทนดอกไม้สด เพื่อลดปัญหาขยะ แบ่งปันให้คนยากไร้

ล่าสุดวานนี้ (6 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พระครูเกษม กิตติโสภณ หรืออาจารย์จ่อย เจ้าคณะตำบลพลูตาหลวง และเจ้าอาวาสวัดสามัคคีบรรพต ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ถึงกรณี การผุดไอเดียนำชุดนักเรียนมาเป็นพวงหรีด ประดับประดาอยู่ตามงานสวดพระอภิธรรมภายในวัด จากเดิมที่เป็นดอกไม้
โดยพระครูเกษม กิตติโสภณ เปิดเผยว่า การที่ญาติโยมได้นำชุดนักเรียนมาเป็นพวงหรีด ตั้งประดับประดาหน้าโรงศพ เพื่อประกอบพิธีสวดพระอภิธรรม นั้น สืบเนื่องจากเมื่อ 3 ปีก่อน ทางวัดได้ประสบกับปัญหาพวงหรีดดอกไม้ หลังเสร็จพิธีฌาปนกิจ พวงหรีดดอกไม้ที่เคยสวยงามได้แห้งเหี่ยวเฉาถูกทิ้งอย่างไร้ค่ากองเป็นขยะจำนวนมหาศาล ยากต่อการเคลื่อนย้ายขจัดทำลายทิ้ง จนเป็นภาระของสงฆ์

อาตมาจึงมีแนวคิด เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงจาก พวงหรีดดอกไม้ ซึ่งมีราคาแพงสูงถึง 1,000 – 1,500 บาท เป็นพวงหรีดข้าวสารหอมมะลิ ถุงละ 10 กิโลกรัม ซึ่งมีราคาเพียงหลักร้อยบาท ซึ่งข้าวสารทั้งหมดหลังเสร็จพิธี ทางวัดจะแบ่งเป็นถุงละ 1 กิโลกรัม นำไปแบ่งมอบให้กับผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมทำบุญในวัด มอบให้กับผู้มีฐานะยากจน และผู้ป่วยติดเตียงในชุมชน หรือตามที่มีการร้องขอจากหน่วยงานต่างๆ จนได้รับการตอบรับจากชาวบ้านเป็นอย่างดี และเห็นถึงแนวความคิดที่ก่อเกิดคุณค่าต่อสังคมอย่างแท้จริง จึงเป็นจุดเริ่มต้น
กระทั่ง อาตมา ได้เล็งเห็นว่า สภาวะปัจจุบัน ด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาบุตรหลาน ที่ใกล้จะเปิดภาคเรียน ต้องหาเงินซื้ออุปกรณ์การเรียน และจ่ายค่าเล่าเรียน จึงมีแนวคิดที่จะแบ่งเบาภาระ ด้วยการให้พวงหรีดภายในวัด เป็นชุดนักเรียน ซึ่งทางวัดได้จัดหา ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา ซื้อชุดนักเรียนที่มีคุณภาพดี จากร้านในราคาชุดละประมาณ 500 บาท เมื่อญาติโยมที่มาจัดงาน ต้องการจัดตั้งพวงหรีดในงาน ก็จะแจ้งกับทางวัดตามจำนวน บางรายก็มอบให้ชุดละ 1,000 บาท หรือมากกว่า ซึ่งภายหลังเสร็จพิธี ชุดโรงเรียนทั้งหมด จะถูกส่งมอบให้กับเด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจน หรือหากมีผู้มาติดต่อ ขอรับความอนุเคราะห์ ทางวัดก็จะมอบให้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น

จึงขอฝากไปยังญาติโยม ที่มาจัดพิธีงานสวดพระอภิธรรม และฌาปนกิจ ขออย่าได้กังวลใจ ทางวัดไม่เก็บค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ญาติโยมตจะต้องจ่ายค่าน้ำมันเผาศพ 3,000 บาท และค่าสัปเหร่อ 1,000 บาท ด้วยกำลังทรัพย์ตนเอง แต่หากบางรายมีฐานะยากจน ไม่มีทุนทรัพย์จริงจริง ก็แจ้งกับทางวัด ที่ผ่านมาทางวัดก็ให้การช่วยเหลือทุกราย และขอยืนยันว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ ที่ญาติโยมได้ทำบุญมานั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพวงหรีด หรือเงินทำบุญ จะถูกโอนเข้าบัญชีวัดทุกบาท ไม่ได้เข้าบัญชีส่วนตัวของอาตมา ซึ่งเงินทั้งหมดจะดูแลโดยคณะกรรมการ เพื่อใช้ในการบูรณะดูแลวัด ให้มีความเจริญ เป็นที่น่าเลื่อมต่อเหล่าพุทธศาสนิกชน สืบไป
ถือเป็นมิติใหม่และเป็นไอเดียทำบุญสุดคุ้มจริงๆ ค่ะ ‘อีจัน’ ขออนุโมทนา สาธุ!




