หมอศิริราช โพสต์เล่า นาทีผู้ว่าฯ สมุทรสาคร รู้ความคืบหน้า รพ.สนาม แม้ป่วยหนัก

สุดซึ้ง หมอศิริราช โพสต์เล่า นาทีผู้ว่าฯ สมุทรสาคร รู้ความคืบหน้า รพ.สนาม แม้ป่วยหนัก

จากกรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาอาการ อีกทั้ง จ.สมุทรสาคร กำลังจัดตั้ง รพ.สนาม เพื่อรับมือกับผู้ป่วยที่อาจจะเพิ่มขึ้น

อ่านข่าวเก่า

– ข่าวสะพัด ผู้ว่าสมุทรสาคร ติดโควิด รอชี้แจงรายละเอียด

– ให้กำลังใจ! อาการป่วย ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ดีขึ้น เริ่มฝึกหายใจเอง หลังติดเชื้อ โควิด

– หมอประสิทธิ์ อัปเดต ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร อาการป่วยดีขึ้น หลังติดเชื้อ โควิด-19


ล่าสุด รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ คืนสู่รังใหญ่ของสำนักฝึกวิชาแพทย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภารกิจแรกคือเข้าไปเยี่ยมท่านผู้ว่าฯ ที่ห้องแยกโรค โดยต้องใส่ชุด PPE เต็มยศ
วันนี้ผู้ป่วย( ผู้ว่าฯ) ได้สติดีจึงพูดคุยกันนานกว่า 10 นาที (ที่จริงพูดฝ่ายเดียว อีกฝ่ายทำได้แค่พยักหรือส่ายหน้า และแสดงสีหน้าได้บ้าง เพราะยังใส่ท่อช่วยหายใจอยู่) ได้แจ้งความคืบหน้าด้านการเจ็บป่วยของเจ้าตัวพร้อมแผนการดูแลรักษาต่อไปของทีมแพทย์ โดยเน้นขอความร่วมมือในการอดใจรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อกลับไปหายใจได้เองทั้งหมด และพยายามไม่ต่อต้านการช่วยหายใจเพื่อจะได้ลดปริมาณยาระงับความรู้สึกลง
นอกจากนั้นสิ่งหนึ่งที่อาจช่วยให้การรับรู้ของท่านดีขึ้นเร็ว คือการบอกเล่าความคืบหน้า “การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในสมุทรสาคร” ซึ่งล่าสุดคืบหน้าไปมากจนรับคนไข้ได้กว่าพันเตียงแล้ว และกำลังจะขยายอีกจนได้ 2,000+ เตียง “ พอได้ยินเรื่องนี้เหมือนจี้ถูกจุด สีหน้าท่านดูผ่อนคลายลงมาก
แถมท้ายด้วยการให้ลูกสาวคนโตอัดคลิปเสียงมาเปิดให้ฟังผ่านอินเตอร์คอมนอกห้อง สีหน้าของคนทุกข์พลันมีความสุขฉาบขึ้นจนเห็นได้ชัด ยิ่งลูกสาวถามว่า “พ่อจำได้ไหมว่าวันนี้สำคัญอย่างไร” เจ้าตัวดูงงๆ ตอนแรก แล้วจึงตอบรับด้วยการพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานปีที่ 34 ของท่านและภริยานั่นเอง

ภาพจากอีจัน


ทั้งนี้ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ โพสต์ต่ออีกว่า ทำไมโรงพยาบาลสนาม จึงเป็นทางรอดของสถานการณ์โควิดขณะนี้ เป็นเพราะปริมาณผู้ป่วยในบางพื้นที่ล้นเกินศักยภาพเตียงที่เตรียมไว้ในโรงพยาบาลหลักของพื้นที่นั้น ถ้าปล่อยไปเช่นนั้น นอกจากควบคุมการระบาดในชุมชนไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้มีการระบาดสู่บุคลากรโรงพยาบาลและผู้ป่วยอื่นของโรงพยาบาลด้วย
การแยกคนป่วยในชุมชนที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรงไปให้การดูแลรักษารวมกันใน รพ.สนาม แล้วนำเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือร่างกายไม่แข็งแรงไปดูแลในโรงพยาบาลหลัก จะช่วยให้เราค่อยๆ ควบคุมการระบาดของโรคได้ง่ายขึ้น แต่การจัดตั้ง รพ.สนามก็ต้องคำนึงถึงหลัก 3 P คือ
Patient safety ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ
Personnel safety บุคลากรที่ปฏิบัติงานต้องได้รับการป้องกันเป็นอย่างดีจากการรับเชื้อโรคโควิด
Public safety ชุมชนรอบข้างจะต้องปลอดภัยจากการรับเชื้อโรคโควิดและเชื้อโรคอื่น
การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรับมือโควิด ได้ดำเนินการมาตั้งแต่วิกฤตระลอกแรก แต่ได้ถูกขยายปริมาณมากขึ้นหลายเท่าตัวในระลอกนี้ เริ่มจากสมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี และจันทบุรี และในอีกหลายพื้นที่ ถ้าเริ่มมีการใช้ศักยภาพเตียงในโรงพยาบาลหลักเกินขีดกำหนด
โดยอาศัยการหนุนช่วยด้านบุคลากรจากนอกพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคน้อยกว่า
วันนี้ได้ไปเยี่ยมโรงพยาบาลสนามแห่งที่สามของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ศาลพันท้ายนรสิงห์ แม้จะเตรียมการในเวลาอันสั้นแต่โรงพยาบาลบ้านแพ้วที่เป็นผู้รับผิดชอบก็สามารถทำตามหลัก 3 P ได้เป็นอย่างดี ในช่วงเย็นได้เห็นกิจกรรมให้ผู้ป่วยชายเล่นกีฬาตะกร้อ ส่วนฝ่ายหญิงเต้นแอโรบิก ปลื้มใจแทนแรงงานต่างชาติ สำหรับความเอื้ออาทรที่คนในแผ่นดินเราหยิบยื่นให้ไม่ต่างจากที่กระทำกับเพื่อนร่วมชาติ ไม่มีที่ไหนในโลกจะอบอุ่นเหมือนประเทศไทยของเราอีกแล้ว
พรุ่งนี้ขอไปเยี่ยมเยียนทีมโควิดแม่สอดให้ถึงถิ่น
#saveประเทศไทยจากภัยโควิดระลอกสอง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


อีจันขอให้ท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร หายป่วยเร็วๆ และเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกท่านด้วยค่ะ สู้ๆ ประเทศไทย