สุดยื้อ! อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เผย ช้างป่ากุยบุรีบาดเจ็บ ล้มแล้ว เจอกระสุนทั่วตัว

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ทำเต็มที่หวังช่วยชีวิต ช้างป่ากุยบุรีบาดเจ็บ แต่สุดยื้อ ล้มแล้ว ชันสูตรพบกระสุนฝังในทั้งตัว

เจ้าขนุน ช้างป่า กุยบุรี ที่บาดเจ็บล้มแล้ว หลังเจ้าหน้าที่พยายามรักษาอาการเจ็บมาสัปดาห์กว่า
นางสาวสุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี สัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช , สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย เผยว่า ได้เข้าประเมินอาการ เจ้าขนุน ช้างป่า บาดเจ็บ และวางแผนการรักษา ท้องที่บ้านท่าวังหิน หมู่ 4 ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยหัวหน้า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และทีมสัตวแพทย์ ลงความเห็นว่าให้เคลื่อนย้าย ช้างป่า ไปยังที่ทำการ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่องและความสะดวกในการดูแล ช้างป่า ตัวดังกล่าว

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ต่อมา เวลา 10.48 น. ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกาย ช้างป่า เบื้องต้น พบว่า ช้างป่า มีอาการท้องอืดร่วมด้วย จึงทำการให้น้ำเกลือ ยาแก้ท้องอืด ยาลดปวด ยาลดอักเสบ จากนั้นทำการเคลื่อนย้ายเวลา 14.30 น. และ เวลา 16.40 น. รถบรรทุกเคลื่อนย้าย ช้างป่า เดินทางมาถึงที่ทำการ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี แต่ ช้างป่า มีอาการหัวใจหยุดเต้น ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือทันที ผลปราฏว่า ช้างป่า ได้ตายลงในที่สุด
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 (ค่ายพระมงกุฏเกล้า) ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำโดย ร.ต.อ.ยงยุทธ โชติชนะเสรี ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ดำเนินการตรวจหาวัตถุด้วยเครื่องสแกนโลหะตามตัวช้าง พบโลหะทั้งหมด 25 จุด จากผลการผ่าชันสูตร โดยใช้เครื่องสแกนโลหะ พบกระสุนปืนลูกซอง เบอร์12 ( ลูก 9 ) จำนวน 40 เม็ด ลูกกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 2 เม็ด และลูกปลาย จำนวน 1 เม็ด พบกระสุนในจุดสำคัญบริเวณใต้เบ้าตา 2 ลูกซึ่งเป็นเหตุทำให้ตาขวามีอาการอักเสบมองไม่เห็น มีลักษณะเป็นฝ้าขาว ส่วนขาหน้าด้านซ้าย พบกระสุนในกระดูก 3 เม็ด มีหนองในข้อกระดูกจำนวนมาก พบกระสุนทะลุซี่โครง ซี่ที่ 7 และ ซี่ที่ 9 จำนวน 2 เม็ด และกระสุนอีก 38 เม็ด กระจายอยู่ทั่วบริเวณงวง ใต้รักแร้ และลำตัว

ส่วนพยาธิสภาพอวัยวะภายในของ ช้างป่า พบปอดมีอาการอักเสบบวมแดง ไตบวมสีซีด ตับซีด มีจุดเลือดออก และมีรอยแผลเป็น หัวใจพบจุดเลือดออก ผนังทางเดินอาหารหลุดลอก พบจุดเลือดออกอักเสบแดงและแผลหลุมในกระเพาะอาหาร ขาหน้าขวาบวมแดง พบหนองด้านใน ผลการชันสูตรสันนิษฐานสาเหตุการตายว่า จากพยาธิสภาพที่พบดังกล่าวทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว ซึ่งสัมพันธ์กับผลค่าโลหิตวิทยา ที่ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่า มีค่าเม็ดเลือดแดง ค่าเม็ดเลือดขาว ค่าตับ และค่าไตผิดปกติ จึงเป็นสาเหตุทำให้ ช้างป่า ตาย ทีมสัตวแพย์และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จึงลงความเห็นว่าให้ฝังกลบซากช้างในพื้นจุดเกิดเหตุ โดยได้มีการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดทำพิธีก่อนฝังกลบด้วย

ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ จากการพิจารณาพฤติกรรมของ เจ้าขนุน ช้างป่า ตัวนี้ ที่มีนิสัยดุร้าย คาดว่าเนื่องจากการโดนขับไล่ หรือไล่ยิงจากคนบ่อยครั้ง ทำให้ช้างป่ามีพฤติกรรมที่กลัวคนจะมาทำร้ายตลอด จนต้องมีอาการดุร้ายเพื่อป้องกันตัวเอง