แกะรอยจับ โอชา สวนจันทร์ ฆ่า แฟนสาว ก่อนจัดฉาก อำพราง

แกะรอยจับ โอชา สวนจันทร์ ฆ่า แฟนสาว ดับคารถก่อนจัดฉาก อำพราง พบขับรถนั่งกับศพ 6 ชั่วโมง

ย้อนรอยจัดฉาก ฆ่า!! คดีนี้ นาย โอชา สวนจันทร์ ยิง แฟนสาว ดับคารถก่อนจัดฉากเพื่อ อำพราง!!!

กรณีเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 พบศพ น.ส.ฐิติรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ทำงานเป็นเจ้าพนักงานธุรการ ชำนาญงาน กองการเจ้าหน้าที่ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร เสียชีวิตภายในรถเก๋ง บนถนนสายเซ้าท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้าสุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน ที่ใบหน้ามีบาดแผลถูกทำร้ายเป็นรอยเขียวช้ำที่ขอบตาด้านขวา บนร่างกายมีรอยคล้ายกระสุนปืน 4 แห่ง กระเป๋าเงินตกอยู่ที่วางเท้า ส่วนที่เบาะด้านหลังมีกระเป๋าถือสีดำ 1 ใบวางอยู่


ความคืบหน้าล่าสุด (24 ธ.ค. 2563) พ.ต.อ.ประวิตร เอ้งฉ้วน ผกก. สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนร่วมกันวิเคราะห์สถานที่เกิดเหตุ สภาพผู้เสียชีวิตแล้วหลังจากที่รู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครบ้านภูมิลำเนาอยู่ไหน ชุดสืบสวนก็แยกย้ายกันแสวงหารวบ รวมพยานหลักฐานจนครบแล้วเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นคนใกล้ชิด

ภาพจากอีจัน

ขณะที่ แหล่งข่าวระดับสูง ที่รับผิดชอบคดีฆาตกรรมคดีนี้ เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนทำงานละเอียดรอบคอบ เมื่อทราบว่าผู้เสียชีวิตมีภูมิลำเนาอยู่ จ.ชัยภูมิ ก็ส่งชุดสืบสวนไปสอบสวนพยาน ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แล้วค่อนข้างมั่นใจว่าคนร้ายน่าจะเป็น "ไอ้โอชา" ซึ่งเคยมาที่บ้านประมาณ 2 ครั้ง

เมื่อชุดสืบสวนได้ข้อมูลแล้วจึงเร่งตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิต พักอาศัยอยู่ละแวก ถนนจรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ และผู้ต้องสงสัยคือ "ไอ้โอชา" ขี่รถจักรยานยนต์ละแวก ซ.จรัญฯ 37 ก็พบพยานแวดล้อมรวมถึงหลักฐานกล้องวงจรปิดในที่พักและเส้นทางที่ น.ส.ฐิติรัตน์ ขับรถยนต์ ผ่านจุดต่างๆ รวมถึงผลนิติวิทยาศาสตร์บางส่วนที่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลพิจารณาออกหมายจับ นาย โอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี ในข้อหาข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ ไปในเมืองฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต

ภาพจากอีจัน
หลังศาลพิจารณาออกหมายจับชุดสืบสวนเดินทางไปยังบ้านของนายโอชา ที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ไม่พบตัวจนกระทั่งช่วงหัวค่ำของวันที่ 22 ธ.ค. 2563 ชุดสืบสวนสามารถควบคุมตัวนายโอชา ตามหมายจับ
ภาพจากอีจัน
ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาสารภาพ โดยอ้างว่าช่วงเช้าของวันที่ 19 ธ.ค. 2563 รับ น.ส.ฐิติรัตน์ จากหอพักเดินทางมายัง จ.นครศรีธรรมราช และเพิ่งคบหากับฝ่ายหญิงมาได้ระยะหนึ่ง โดยโกหก น.ส.ฐิติรัตน์ ว่า ตนเองเป็นคนมีฐานะ และมีสวนอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช และวางแผนจะแต่งงานกัน แล้วพาผู้ตายไปบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่เมื่อฝ่ายหญิงทราบว่า ตนเองไม่ได้เป็นเหมือนที่พูด จึงรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก และได้โทรศัพท์กลับไปบอกที่บ้านของ น.ส.ฐิติรัตน์ ว่าเหมือนโดนหลอก ถ้าตนเองโทรศัพท์ไปไม่ต้องรับสาย ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับบ้านที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างทางในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เกิดมีปากเสียงกันเรื่องที่ตนเองหลอกผู้ตายว่าเป็นคนมีฐานะ จึงใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่ น.ส.ฐิติรัตน์ หลายนัดจนอีกฝ่ายเสียชีวิต จากนั้นได้นำเสื้อแจ็กเก็ตคลุมตัวผู้ตาย สวมใส่แมสก์ ให้เหมือนคนนอนหลับ หลังจากก่อเหตุ นำอาวุธปืนไปทิ้งในแยกวังมะนาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้ขับรถพาศพนั่งมาในรถนานกว่า 6 ชั่วโมง จนถึงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนโทรศัพท์ไปบอกกับน้องชายว่าทำปืนลั่นใส่แฟนสาวเสียชีวิต และนำรถมาจอดที่จุดพบศพ โดยให้น้องชายขับรถมารับหลบหนีไปที่ อ.หัวไทร
ภาพจากอีจัน