ภารกิจตามหาแม่ให้น้องน้ำเดินทางมาจนถึงปลายทางแล้วนะครับ ในที่สุดเราก็ตามหาปาฏิหาริย์จนเจอ
เคสนี้ บอกตรงๆ ว่าวันแรกที่มาเจอแม่ อีเต้ยแอบตกใจเหมือนกันว่าทำไมการเป็นอยู่ของแม่ถึงเป็นแบบนี้
แม่เรียกรถเมล์พังคันนี้ว่าบ้าน อย่างเต็มปากและไม่เคอะเขินเลย
แต่พอได้คุยเหตุผลแล้ว ก็เข้าใจได้ว่า แม่ต้องการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน เพราะตัวคนเดียว ไม่ต้องซีเรียสอะไรมากมาย อาชีพก็มี ประกันสังคมก็มี
ภารกิจพาน้ำไปพบแม่ เราเริ่มต้นจากการไปรับน้องที่ จ.พิษณุโลก ก่อนพามาแวะที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ อู่รถเมล์ของคุณแม่ แล้วเล่าเรื่องราวการตามหาแม่ให้เธอฟัง ว่าหินแห่งไหน ก่อนบอกว่า…เราเจอแม่แล้วนะ และแม่ก็รอเจอเธออยู่
หลังจากเฉลยเสร็จ อาการของน้ำบ่งบอกชัดเจนว่า 24 ปีที่รอคอย ก็ไม่ทรมานเท่า การนั่งรถไปเจอแม่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้…ช่างนาทีบีบหัวใจ
สิ่งที่อีเต้ยหวั่นใจอยู่อย่างเดียว คือ น้ำ หากเธอได้มาเห็นแม่อยู่แบบนี้ จะรับได้ไหม
แต่สิ่งที่คิด กับความเป็นจริง กลับกันอย่างสิ้นเชิง เพราะนาทีแรกที่เห็นหน้าแม่ เธอปรี่เข้าไปกอดแม่โดยไม่ถามคำถามใดๆ พร้อมกับเอ่ยปากจะพาแม่ไปอยู่ด้วย และอาสาจะดูแลแม่เอง แต่แม่ก็ปฏิเสธ เมื่อข้อเสนอนั้นมันจะทำให้ลูกลำบากมากกว่าเดิม
จึงอยากให้เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันแบบนี้จะดีกว่า….ไม่ต้องมีใครลำบากเลี้ยงใคร
จากนี้ไม่พลัดพรากแล้วนะ ส่วนเรื่องที่น้ำอยากพาแม่ไปอยู่ด้วย ให้เป็นเรื่องของอนาคตก็แล้วกัน
อีเต้ยอีจัน ปิดเคส 37 แฮปปี้