อีกแล้ว แก๊งต้มตุ๋น ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ สร้างความเสื่อมเสียให้ศาสนา
ย้อนกลับไปเมื่อ เดือนสิงหาคม 63 ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ขอให้ตรวจสอบ มีแก๊งเรี่ยไรเงินอยู่หนึ่งแก๊ง สร้างความเสื่อมเสียให้ศาสนาอย่างมาก เพราะผู้ก่อเหตุ ปลอมตัวเป็นพระตระเวนหลอกเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน ใน จ.ภูเก็ต โดยบอกกับชาวบ้านว่าเงินที่ได้รับบริจาค จะนำไปทำบุญสร้างศาลาการเปรียญ มูลค่า 2 ล้าน ให้กับวัด ในจังหวัดลพบุรี
ประชาชนหลายคนหลงเชื่อ และร่วมกันบริจาคเงินให้เป็นจำนวนมาก
ภาพจากอีจัน
ชาวบ้านเล่าให้ตำรวจฟังถึงวิธีการหลอกเรี่ยไรเงินของแก๊งนี้ มีผู้ร่วมขบวนการ อยู่ 4 คน โดยมีนายบุญหลง แต่งตัวเป็นพระ ทั้งหมดโดยสารมากับรถกระบะ ป้ายทะเบียน 1 ฒษ 9931 กทม. มีพระพุทธรูป องค์ใหญ่ตั้งอยู่ท้ายรถ ตระเวนประชาสัมพันธ์ไปทั่วพื้นที่ จ.ภูเก็ต ให้ร่วมบริจาคเงิน โดยชาวบ้านที่เอะใจ ได้ติดต่อไปยังวัดที่ แก๊งพระปลอมอ้าง จะไปสร้างศาลาการเปรียญ ปรากฏว่า วัดดังกล่าวไม่รู้เรื่องนี้ และไม่รู้จักกับทั้ง 4 คนภาพจากอีจัน
เมื่อ ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ทราบเรื่อง จึงเข้าตรวจสอบพร้อมรวบรวมหลักฐาน ก่อนเข้าจับกุมตัว นายบุญหลง คาผ้าเหลือง ในวันที่ 29 สิงหาคม 63ภาพจากอีจัน
ตรวจสอบแล้ว นายบุญหลง ไม่มีใบสุทธิ และท่องบทสวดมนต์ไม่ได้เลย ในย่าม มีเสื้อและกางเกงที่เตรียมไว้เปลี่ยน พร้อมเงินบริจาคอีกส่วนหนึ่ง แก๊งพระปลอมสิ้นลาย ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 ราย คือ นางพัชรี, นายจำนงค์ และ นายเกรียงไกร ไหวตัวทัน หลบหนีออกจากพื้นที่ พร้อมเงินบริจาคซึ่งคาดว่ามากกว่า สามแสนบาทภาพจากอีจัน
ตำรวจเร่งล่า จนพบว่า แก๊งสาธุ อีก 3 ราย กระจายกบดานอยู่ใน จ.ลพบุรี จึงส่งทีมคอมมานโด ตามไปจับกุมทั้งหมดได้ที่ อำเภอท่าหลวง และอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เมื่อสอบถาม ทั้ง 3 รับว่าเคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายพื้นที่ โดยจะเน้น จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนั้น จากการตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่าทั้งหมดต้องคดีฉ้อโกงประชาชนอีกหลายคดีด้วย ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปภาพจากอีจัน
พฤติกรรมดังกล่าวเป็นภัยสังคม หากินกับความเชื่อและความศรัทธาในพระพุทธศาสนา หากใครพบเห็น รีบแจ้งตำรวจ อย่าปล่อยให้ลอยนวล