แก๊งลิขสิทธิ์โดนคุก! คดีกระทงลิขสิทธิ์

ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก! ประจักษ์ – นัน กิ่งเพชร ล่อซื้อ กระทงลิขสิทธิ์ จากเด็กหญิงวัย 15

ความคืบหน้า กรณี ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) วัย 15 ปี หารายได้เสริมรับทำ กระทง ที่ทำจากขนมปัง กระทั่งมีคนโทรมาสั่ง กระทงลายการ์ตูน ยอดรวม 510 บาท โดยมีการวางเงินมัดจำ 200 บาท พร้อมนัดรับ กระทง ในตัวเมืองโคราช ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดรับ ได้มีการจับกุมเด็กสาววัย 15 ปี อ้างว่า กระทง มี ลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ โดยได้เสนอเรียกรับเงิน 50,000 บาท แลกกับการปล่อยตัวและไม่ต้องติดคุก สุดท้ายผู้ปกครองเจรจายอมจ่ายเงินให้ 5,000 บาท ต่อมา ผู้ปกครองได้พา ด.ญ.เอ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายประจักษ์ โพธิผล , นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร และ น.ส.วนิสา ภรรยาของนายนัน 3 ผู้ต้องหา ขบวนการรีดทรัพย์เหยื่อ ล่อซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่อ้างเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ในฐานความผิดกรรโชกทรัพย์ ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จ และกักขังหน่วงเหนี่ยว และมีผู้เสียหายอีกกว่า 50 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ โดยมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกัน พร้อมมีการเรียกรับเงิน 20,000 – 50,000 บาท และบางรายถูกเรียกสูงถึง 100,000 บาท จนเป็นคดีโด่งดังเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมานั้น

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ล่าสุด วันนี้ (28 ต.ค. 63) นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เผยความคืบหน้าของคดี กระทงลิขสิทธิ์ ว่า ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาได้เข้าไปเป็นทนายร่วม เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย คือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) เป็นคดีแรก และได้มีการสืบพยานกันมา จนศาลได้สั่งฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน ซึ่งเช้าวันนี้ศาลจังหวัดนครราชสีมา ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยใน 3 ข้อหา คือ ใช้เอกสารปลอมในเรื่องของหนังสือมอบอำนาจ , แจ้งความเท็จ และกรรโชกทรัพย์ โดยสั่งให้จำคุกจำเลยที่ 1 คือนายประจักษ์ โพธิผล 2 ปี 6 เดือน และจำเลยที่ 2 นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 3 คือ น.ส.วนิสา ภรรยาของ นัน กิ่งเพชร ศาลได้ยกฟ้อง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าว

ภาพจากอีจัน

ในส่วนของผู้เสียหายรายอื่นๆ นายณพจน์ ผลเจริญ ฝ่ายช่วยเหลือทนายอาสาประจำสถานีตำรวจและส่วนราชการ เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้าคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนทุกรายแล้ว และขณะนี้พนักงานสอบสวนแจ้งว่า อยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม และรอดูผลคำพิพากษาในคดีนี้ก่อน สำหรับเป็นแนวทางประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุลักษณะคล้ายกัน จะมีแตกต่างกันเรื่องสินค้าที่ทำขึ้นจำหน่าย แต่ทั้งนี้ 3 ข้อกล่าวหาที่ส่งฟ้องขอให้ดำเนินคดีกับจำเลยไปแล้วนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับข้อหาที่จะชี้ชัด ว่าด.ญ.เอ ได้ทำ กระทง ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือไม่ ซึ่งหากผู้เสียหายรายอื่นๆ ร้องขอความช่วยเหลือมาทางสภาทนายความ จังหวัดนครราชสีมา ยินดีให้การช่วยเหลือ ส่วนกรณีที่ศาลลงโทษตัดสินจำเลยที่ 1 และ 2 ไม่เท่ากัน ศาลจะพิจารณาจากพฤติการณ์การทำความผิดเป็นหลัก จึงใช้ดุลพินิจในคำตัดสินพิพากษาไม่เท่ากัน โดยหลังจากศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ทางจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งศาลชั้นต้นให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 3 คน ด้วยหลักทรัพย์คนละ 8 หมื่นบาท ส่วนชั้นอุทธรณ์ยังไม่รู้ว่าจะมีดุลยพินิจเรียกประกันตัวด้วยหลักทรัพย์จำนวนเท่าไหร่ และเมื่อมีการยื่นอุทธรณ์ ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ก็จะเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการยื่นคำแก้อุทธรณ์ ช่วย ด.ญ.เอ ต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ตามลำดับต่อไป

ภาพจากอีจัน