เมื่อโควิด-19 ไม่เลือกวัย เด็กผู้ใหญ่ก็เสี่ยงไม่ต่างกัน
ล่าสุดวานนี้ 22 ก.ย.2563 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยควีนส์เบลฟาสต์ (Queen’s University Belfast) ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร เช่น ท้องร่วงและอาเจียน อาจเป็นอาการสำคัญของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในเด็ก และควรถูกเพิ่มเข้าในข้อบ่งชี้โรคโควิด-19 ร่วมกับอาการอื่นๆ ที่มีอยู่ก่อนอย่างไข้ ไอ และการสูญเสียการรับกลิ่นหรือลิ้มรส
ภาพจากอีจัน
งานวิจัยได้ดำเนินการทดสอบแอนติบอดีของโรคโควิด-19 ในเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงทั่วสหราชอาณาจักร อายุ 2-15 ปี จำนวน 992 คน และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาการของพวกเขา โดยพบว่าเกือบร้อยละ 7 ของเด็กกลุ่มนี้ ตรวจพบแอนติบอดีของโรคโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเคยติดเชื้อมาก่อน แม้กลุ่มเด็กที่มีผลตรวจเป็นบวกเพียงครึ่งหนึ่งจะแสดงอาการ
ไข้เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดในบรรดาอาการทั้งหมด ครองสัดส่วนร้อยละ 31 ของเด็กที่ติดเชื้อทั้งหมด ขณะอาการที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ได้แก่ ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งรวมถึงท้องร่วง อาเจียน และปวดท้อง โดยครองสัดส่วนร้อยละ 19 ของเด็กที่ติดเชื้อทั้งหมด เมื่ออ้างอิงเด็กที่แสดงอาการดังกล่าว 13 คน
"อาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหารเป็นอาการของโรคโควิด-19 ที่พบได้บ่อยในเด็ก และการเพิ่มอาการดังกล่าวเข้าไปในข้อบ่งชี้โรคโควิด-19 จะช่วยให้การค้นหาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากขึ้น"
โทมัส วอเตอร์ฟิลด์ ผู้นำการวิจัยครั้งนี้ กล่าวกับวารสารการแพทย์อังกฤษ (British Medical Journal) ว่าทุกคนควรเฝ้าระวังและจับตาดูเด็กๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร พร้อมเสริมว่า "พวกเขาจำเป็นต้องรักษาอาการทางระบบทางเดินอาหารนานถึง 48 ชั่วโมง ก่อนกลับไปโรงเรียนเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสที่อาจเกิดขึ้น"
อย่าละเลยอาการ หากมีอาการผิดปกติรีบไปพบแพทย์นะคะ เพราะอาการเล็กน้อยอาจเป็นสาเหตุไปสู่โรคน่ากลัวอย่างโควิด-19