อีเต้ยอีจัน คิดไม่ออกจริงๆ ในเมื่อเคสนี้มันเป็นแบบนี้ แล้วจะต้องไปต่อยังไง
“แม่แตน” ก็ยังยืนยันคำเดิม เหตุการณ์การรับกิ๊ฟมาเป็นลูกบุญธรรมก็ยังเส้นทางเดิม
เมื่อถามกลับไปว่า ทำไมตอนที่ไปรับกิ๊ฟมา ได้เอกสารมา ถึงไม่ไปแจ้งเกิดตั้งแต่เนิ่นๆ
แม่ก็บอกคำเดียวว่า พยายามมาตลอด แต่สุชาติเขาไม่เห็นด้วย ทุกครั้งที่ถามเขาก็โมโหใส่ บางครั้งถึงขั้นลงไม้ลงมือ…
28 ปี แม่ทำอะไรไม่ได้เลย
ภาพจากอีจัน
สรุปว่าตอนนี้ ข้อมูลที่จะเชื่อมโยงไปหาแม่แท้ๆ ของกิ๊ฟยังหาไม่เจอ แต่สิ่งที่เรามีอยู่ในมือ คือ พยานแวดล้อมที่ยืนยันได้ว่าเห็นแม่แตนรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมจริงๆ ตั้งแต่ 28 ปีที่แล้ว และเด็กคนนั้นก็คือ กิ๊ฟ เราจึงติดต่อไปยัง พี่ปลัดวันทนีย์ ปลัดอำเภอพรานกระต่าย อีกครั้ง เพื่อขอคำแนะนำว่า “ในเมื่อข้อมูลที่มีอยู่เท่านี้” เราควรไปต่อในทิศทางไหน และควรทำอะไรต่อ ทำบัตรประชาชนให้กิ๊ฟได้หรือยังนะ…
ภาพจากอีจัน
พี่ปลัดวันทนีย์ แนะนำอีเต้ยว่า กรณีแบบนี้ทำได้แค่ “ขอแจ้งเกิด” หรือ “ขอเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้าน” ซึ่งก็ต้องมีคนมารับรองให้ได้ว่า กิ๊ฟ เกิดจากแม่คนไทย เป็นคนไทย หรือ มีเอกสารรับรองการเกิด (ที่เชื่อถือได้) มายื่นที่อำเภอ จึงจะตั้งเรื่องขอทำบัตรประชาชนได้ ขณะที่การ “ขอเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน” ก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบเจ้าบ้านอีกที แต่ท้ายที่สุดหากมีพยานหลักฐานแค่นี้ สถานะก็อาจเป็นได้แค่ “บุคคลถือบัตรหมายเลขศูนย์” แค่ใช้ยืนยันว่าเป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ถึงแม้จะมีคนเห็นว่าแม่แตนเอากิ๊ฟมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กจริง ก็ยังไม่มีคนยืนยันได้อยู่ดีว่า แม่แตนไปเอาเด็กจากแม่ที่เป็นคนไทยมาเลี้ยง นอกเสียจากว่าวันหนึ่งเกิดมีพยานหลักฐาน พยานบุคคลตรงนี้ ถึงจะมาทำเรื่องขอเปลี่ยนสถานะไปทำบัตรประชาชนได้ 
ภาพจากอีจัน
แต่ตอนนี้ หาแม่แท้ๆ หาคนมารับรองไม่ได้ ก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้… ลูกเพจจ๋า มีความเห็นอะไรเสนอไหม คิดว่าเราควรไปต่อกับเคสนี้ยังไงดี ส่วนอีเต้ยนั้น ยังคิดไม่ออก ถ้าคิดออก จะมาบอกนะจ๊ะ