ไขปริศนาต้นตอปัญหาหน้าเห่ย ทำอย่างไรถึงจะหาย?

ปัญหาชีวิตของคนเราแตกต่างกัน เชื่อหรือไม่ว่ามีคนอีกไม่น้อยที่เป็นทุกข์ทรมานใจเพราะมีปัญหากับสภาพผิวหน้าของตนเอง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทางเพจอีจันจัด “โครงการหน้าเห่ย” เพื่อไขปริศนาต้นตอและสาเหตุของหน้าเห่ย โดยเมื่อวานที่ผ่านมา ( 13 กันยายน 2563 ) ผู้ร่วมโครงการจำนวน 8 คน มีปัญหาผิวหน้าและวิธีการรักษาจาก พญ. ปุนญนันท์ บุญชญา ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ แพทย์ประจำคลินิกกองจู ดังนี้

เริ่มต้นจากผู้ร่วมโครงการคนแรก นาย ศิริ ริบบรรจง อายุ 54 ปี โดยมีปัญหาสภาพผิวหน้าที่โทรม มีริวรอย เพื่อนรุ่นเดียวกันดูสดใสกว่า สาเหตุในการหน้าโทรมเพราะ การดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคุณหมอเผยว่า ริวรอยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. ริวรอยแบบตื้น ต้องรักษาการเลเซอร์จะทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น 2. ริวรอยแบบลึก ต้องรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ซึ่งจะสามารถช่วยได้ 30 เปอร์เซ็นต์ สิ่งสำคัญควรใช้ครีมที่ชุ่มชื่นและครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

รอยแผลเป็น สร้างรอยฝังใจไม่มีวันลืมสำหรับ นางสาว สุชาดา โชติรัตน์ อายุ 32 ปี เธอเล่าให้จันฟังทั้งน้ำตาว่า รอยแผลเป็นที่ได้มาเกิดจาก อุบัติเหตุในวัยเด็กเพราะเส้นแหล็กเชียดโดนที่ใบหน้า และเพื่อนมัธยมบูลลี่เธอว่า หน้าเธอเหมือนองค์บาก กลายเป็นปมด้อยของเธอจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งคุณหมอได้แนะนำว่า ใบรูปหน้าของน้องเป็นรูปที่หน้าสวยอยู่แล้ว ถึงแม้ลอยแผลเป็นจะเกิดขึ้นตั้งแต่เด็กก็สามารถแก้ไขได้โดย การเลเซอร์ ซึ่งจะทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ควรได้รับการรักษา 1 ครั้งต่อเดือน และเชื่อว่าเข้ารักษา 4-5 ครั้ง ใบหน้าจะกลับมาเป็นปกติ

ปัญหาโลกแตกเรื่องหน้าอีกอย่างหนึ่งคือ ผิวมัน และลอยด่างดำ ปัญหาของ นส. สุภารัตน์ พินทา อายุ 29 ปี เป็นสาวออฟฟิศที่ไม่ได้เจอแดด แต่เป็นสิวเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณคางเพราะเกิดจากการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งคุณหมอแนะนำว่า คนที่มีสภาพผิวหน้าที่หน้ามันควรใช้ ครีมบำรุงผิวที่เป็นน้ำ หรือครีมบางๆ ไม่แนะนำให้ใช้ครีมที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม ในกรณีที่คนหน้ามันเป็นสิว ควรใช้ยาแต้มสิวในกลุ่มตัวยา วิตามิน A

เพราะเรียนจบมาน้อยจึงมีข้อจำกัดในการเลือกอาชีพ สำหรับ นางสาว อัญชลี กองสินแก้ว อายุ 28 ปี เธอทำงานก่อสร้างด้วยอาชีพของเธอต้องเจอแดด 8 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่ 08.00 -16.00 น. ไม่สามารถทาครีมกันแดดได้ทาครีมกันแดดเมื่อไรเป็นสิวเมื่อนั้น โดยคุณหมอแนะนำว่า กรณีของน้องอัญชลี ว่าปัญหาสิวที่เกิดขึ้นไม่ได้เยอะ อาจจะใช้แค่ยาทาบริเวณที่เป็นมากกว่า ส่วนกรณีที่ผิวคล้ำต้องใช้กรดผลไม้ เลเซอร์ เป็นตัวช่วย และควรทาครีมกันแดดทุกๆ 2 ชั่วโมง

เป็นสิวยังรักษายาก แต่การเป็นหลุมสิวนั้นรักษายากกว่าอีก ซึ่งปัญหาผิวหน้าของ นางสาว วิลาวัณย์ ยิ้มนิล อายุ 36 ปี ที่รักษาหลุมสิวมาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีที่ท่าว่าจะหายไปจากชีวิต ปัญหาเกิดจากนางสาว วิลาวัณย์ เกิดสิวหัวใหญ่ๆไม่มีหัวแต่มีหนอง หลังจากนั้นก็กลายเป็นหลุมสิวถาวร ในกรณีนี้ถือว่าเป็นการรักษาที่ยากพอสมควรซึ่งคุณหมอให้ความรู้ว่าการเป็นหลุมสิวแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. หลุมสิวแบบจุดๆ 2.หลุมสิวแบบเป็นคลื่นๆ 3. หลุมสิวแบบเป็นสี่เหลี่ยม ซึ่งวิธีการดูแลรักษา Subcision การเลาะพังผืดในหลุมสิว หลังจากนั้นเซลล์ผิวหน้าจะสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่เพื่อให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น โดยการรักษาต้องต่อเนื่อง 1 เดือนครั้ง

โดนบูลลี่จากคนใกล้ตัวว่า หน้าหลุมอุกกาบาต ปัญหาผิวหน้าคือ หน้ามันและผิวหน้าเป็นหลุมสิว ไม่สามารถหาทางออกกับปัญหานี้ได้สำหรับ ธนัญญา อ่อนสะอาด อายุ 30 ปี ซึ่งคุณหมอย้ำว่าโดยสถิติปัญหาเรื่องสิวผู้ชายจะเป็นมากกว่าผู้หญิงแต่ผู้หญิงจะรักสวยรักงามดูแลตัวเองมากกว่าเพศชาย ในกรณีคนไข้ท่านนี้ต้องใช้การรักษาแบบ Subcision การเลาะพังผืดในหลุมสิว และควรทาครีมเป็นประจำเพื่อการบำรุงและให้อาหารผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนเร็วขึ้น

ผู้ชายคนสุดท้ายในการร่วมโครงการมีปัญหาที่ว่า ทาครีมแล้วเป็นสิวสำหรับนาย นาย วิชาญ บัวดง อายุ24 ปี ด้วยอาชีพที่เจอแดดและชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยคุณหมอเล่าว่า การสิวเกิดขึ้นด้วยหลายปัจจัยเช่น ทุกคนต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับผิวหน้าตัวเอง หากในกรณีที่คนไข้หน้ามันแต่ยังใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น ออย หรือ น้ำมัน ก็สามารถทำให้เกิดสิวได้ หรือยาบางอย่างที่ผสม สารสเตียรอยด์ หรือ ความเครียด ทำงานหนัก นอนดึก ก็สามารถเกิดสิวได้

นอกจากนี้ พญ. ปุนญนันท์ บุญชญา ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ แพทย์ประจำคลินิกกองจู ยังย้ำอีกว่า ปัญหาผิวหน้าของคนเราใช้เวลารักษาแตกต่างกันออกไป เพราะปัญหาอาจจะเกิดจากพันธุกรรม วิถีการกินและดำรงชีพ รวมไปถึงฮอลโมน นอกจากออกกำลังกายทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ยาให้ถูกต้องศึกษาให้ท่องแท้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางเพื่อความถูกต้อง