“ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ร่ำไห้อยากเจอหน้าลูก ไปหาที่บ้าน แต่โดนแจ้ง ตร. เคยเอาทองของลูกไปจำนำ

“ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ร่ำไห้อยากเจอหน้าลูก ไปหาที่บ้าน แต่โดนแจ้ง ตร. เคยเอาทองของลูกไปจำนำ ขอโทษ “หนุ่ม ศรราม” ขอให้พี่เห็นใจในความเป็นแม่เถอะ

เปิดใจอีกครั้ง ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ หลังมีดราม่าหย่าขาดอดีตสามีหนุ่ม ศรราม เผยปมหนี้สินทั้งหมดที่ทำให้รักร้าว เพื่อนเลิกคบ โดนโจมตีจนไม่มีที่ยืน เคยคิดสั้นถึงขั้นเคยคิดฆ่าตัวตายหรือไหม วันนี้เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง ONE31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร พร้อมเผยไม่ได้เจอหน้าลูกเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยห่างกันเลยตั้งแต่คลอด

ภาพจากอีจัน
ออกจากบ้านมา 15 วันแล้ว เป็นยังไงบ้าง? ติ๊ก : ออกมาตั้งแต่วันที่ 28 จดบันทึกทุกวัน เมื่่อวานนี้ย้อนกลับไปอ่านก็พูดกับตัวเอง มึงเจ๋งผ่าน 7 วันแรกมาได้ ความรู้สึกมันเหมือนนั่งนับวัน ซึ่งมันรผ่านไปยากมาก นอนกับลูกทุกคืน ไม่สามารถดูรูปลูกในไอจีได้เลย เวลานอนรู้สึกว่านอนกับลูก แต่ไม่มีลูก กลับบ้านเพื่อจะไปขอเจอลูกหน่อย ทำไมถึงเจอวีจิไม่ได้ เจอวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ได้ไหม การเจอลูกมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ งั้นใจเย็นรอ รู้ว่าพี่หนุ่มเป็นคนยังไงก็เลยรอจนถึงวันศุกร์ วันศุกร์ก็เปลี่ยนอีกแล้ว พอเปลี่ยนปุ๊บใจเราที่เรารเฝ้ารอทั้งวัน ทั้งคืน ตัดสินใจกลับบ้าน หนูรู้ว่าพี่หนุ่มไม่อยู่บ้าน หนูก็เลยมั่นใจว่าน่าจะเจอลูกได้ แต่ก็ไม่ได้เจอ หนูก็กดกริ้งตามมารยาทแล้ว ก็ไม่มีคนเปิด ก็เลยตะโกนว่าให้เราเจอลูกหน่อย อยากเจอมากๆ มันเหมือนคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แล้วตำรวจมา หนูเลยถามเขาใครเป็นคนเรียกพี่มาหรอคะ เจ้าของบ้านครับ หนูบอกว่า พี่คะหนูเป็นแม่คน หนูไม่ทำร้ายลูกอยู่แล้ว หนูรอมาหลายวันแล้ว มันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเรื่อยๆ ตำรวจบอกว่าเข้าใจ แต่ผมต้องทำตามหน้าที่ ผมเข้าใจในความเป็นแม่ เวลานี้เป็นเวลายามวิกาล ถ้าพี่มากลางวันมาสิ ไม่ผิดกฎหมาย
ภาพจากอีจัน
แล้วได้ไปกลางวันไหม? ติ๊ก : ไปค่ะ หนูรู้ว่าพี่หนุ่มถ่ายละคร หนูก็เลยไป ทีนี้โทร.หาพี่เลี้ยงของวีจิ เขาก็เปิดวิดีโอคอล เขาก็เลยบอกว่ายังหลับอยู่ รู้ว่าเขาไม่อยากเปิด เขาคงได้รับคำสั่งมาหรืออะไรหนูก็ไม่แน่ใจนะ หนูบังคับว่ายังไงก็ต้องเอาลูกมาให้เจอหน้า หนูไม่ไหวแล้วจริงๆ พี่เขาอุ้มลูกลงมาให้ มันเป็นประตูรั้วแล้วหนูยืนอยู่หน้าประตูรั้ว วีจิมาแป๊บเดียวเอง ไม่ถึง 2 นาที คือให้เกียรติทางบ้านพี่หนุ่มด้วย เขาก็ยิ้ม แล้วจะเอามือล้วงเข้าไปในประตูมันจับลูกไม่ได้ พี่หนุ่มลงมา บอกว่าให้ออกไป เดี๋ยวแจ้งตำรวจจับ หนูก็บอกว่าขอร้องเถอะ นั่งคุกเข่ามันเจ็บมากในหัวใจ ให้ออกไปก่อนที่ตำรวจจะมา
ภาพจากอีจัน
แล้วออกไหม? ติ๊ก : หนูไม่ได้ออกไป เพราะกลัวตำรวจ แต่ที่หนูออกจากบ้านวันนั้น เพราะพี่หนุ่มกำลังจะต่อว่ายามหน้าหมู่บ้าน จะเอาเรื่องเขา หนูเลยถอยหลัง แล้วบอกตัวเองว่าถ้าวันนี้ต้องผิดอะไรยอมรับได้หมดทุกอย่าง เพราะนิสัยจริงๆ กล้ารับ กล้าทำ กล้าเสี่ยง เพราะฉะนั้นหนูมีความรู้สึกว่าถ้าหนูออกมาแล้วหนูพูดความจริง ความจริงบางอย่างหนูอาจจะพูดไม่เคลียร์ไม่ชัด เพราะว่าจิตใจของหนูมันยังไม่พร้อม แล้วด้วยคำถาม คำตอบมันทำให้หนูอธิบายได้ไม่ชัดเจน
ภาพจากอีจัน
ก่อนจะออกจากบ้านได้มีการตกลงกันไหม วันนั้นเกิดอะไรขึ้น? ติ๊ก : คือบางอย่างหนูพูดได้ บางอย่างหนูพูดไม่ได้ หนูไม่อยากพาดพิงถึงใคร คือหนูไม่รู้มาก่อน แต่ก่อนหน้านั้นวันที่ 19 มันต้องพูดกันแล้ว คือมันมีปัญหาทำให้เราต้องเคลียร์กันแล้ว แล้ว ณ วันนั้นไปที่วัด ไปนั่งเคลียร์กันกับผู้ใหญ่ที่เราเคารพทั้งสองฝ่าย วันนั้นร้อนกับร้อนไม่มีใครเย็นเลย หนูยายามเย็นแล้ว รอจังหวะอธิบาย หนูต้องการพูดความจริง เพื่อเป็นของขวัญให้พี่หนุ่ม แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเจตนาของหนูไม่เคยจะปิดบัง ไม่เคยจะโกหก มองเจตนาพื้นฐานของความรัก ความเมตตาจริงๆ ความห่วงใย ความให้อภัยจริงๆ คนเราต้องมองไม่ใช่ปัญหา มันต้องมองว่าที่มาที่ไปตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้คืออะไร เราสองคนเท่านั้นที่อยู่ในห้อง เป็นแรงกำลังใจให้กันจนถึงตรงนี้ได้
ภาพจากอีจัน
แต่วันนั้นก็ไม่เวิร์กใช่ไหม วันที่คุยกับผู้ใหญ่? ติ๊ก : วันนั้นหนูตั้งใจที่จะพูดความจริงทุกอย่างที่พี่หนุ่มอยากรู้ ทุกอย่างจริงๆ ยังมีเรื่องที่พี่หนุ่มรู้ไม่หมด? ติ๊ก : มีค่ะ หนูต้องยอมรับนะว่าหนูพูดไม่หมด บางอย่างหนูโกหกจริงตามที่พี่หนุ่มพูดมาเลย ตอนที่ออกจากบ้านมีการตกลงกันไหม มีการตกลงกันไหมว่าเธออยู่ที่อื่น ฉันอยู่ตรงนี้ เอาลูกไว้? ติ๊ก : ตอนอยู่ที่บ้านใช่ไหม ตอนก่อนที่คุณติ๊กจะออกมาเป็นเวลา 13-14 วัน? ติ๊ก : ไม่มีค่ะ แล้วคุณติ๊กออกมาทำอะไรแล้วเข้าบ้านไม่ได้อีกเลยอย่างงี้หรอ? ติ๊ก : ออกมาน่าจะเป็นเงินคอนเสิร์ต จริงค่ะ ติ๊กทำแบบนั้นจริง ติ๊กขอยอมรับ การที่ติ๊กยอมรับไม่ได้ยอมรับแค่เอาตัวรอดหรือว่าหนีความผิด แต่ติ๊กยอมรับตั้งแต่วันที่อยู่ที่วัดแล้ว ยอมรับกะว่าจะพูดทุกอย่าง ทุกเรื่องจริงๆ เพราะในชีวิตติ๊กมีใครจะดีเท่าเขาแล้ววันนั้นไม่มีโอกาสพูดนั่งร้องไห้ ตอนนั้นที่นั่งฟังสัมภาษณ์ พี่หนุ่มให้เราใช้ 300, 500 ? ติ๊ก : 300 บ้าง 500 บ้าง หนูจำได้ เป็นพันบ้าง เป็น 3000 บ้าง อันนี้ต่ออาทิตย์หรือต่อเดือน? ติ๊ก : วันนั้นหนูต้องขอโทษจริงๆ ไม่มีเวลาอธิบาย ตอนแรกที่หนูเดินเข้ามาในชีวิตของพี่หนุ่ม ช่วงนั้นพี่หนุ่มไม่ได้มีงานปังเท่ากับตอนนี้ ต่อให้เขาไม่ได้มีเงิน กัดก้อนเกลือกินหนูก็อยู่ หนูอยู่ได้ทุกสถานการณ์ ทุกสภาพ ทุกเหตุการณ์ แรกๆ มี 300 บ้างวางเอาไว้ให้ บางทีก็ 500 ก็คือต่อวัน เขาไปข้างนอก เขาก็ให้เรา เพราะเราอยู่บ้าน แรกๆ เลยก็มีน้อยใช้น้อย อย่างตอนนี้มีมากพี่เขาก็ให้มาก แต่ วันนั้นไม่มีโอกาสอธิบาย แต่คุณหนุ่มบอกว่าให้คุณติ๊กเดือนละ 30,000 เลย? ติ๊ก : ตอนเราอยู่ด้วยกันมันเหมือนนาน แต่จริงๆ มันไม่นาน วีจิขวบ 2 เดือนเอง เพราะฉะนั้นอยู่กับพี่หนุ่มมายังไม่ถึง 2 ปีเลย ช่วงแรกๆ พี่หนุ่มให้อย่างนั้นจริงๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นช่วงยาว พอพี่หนุ่มมีงานเยอะก็จะให้หมื่นหนึ่งต่อเดือน ถ้าพี่หนุ่มทำงานมาแล้วได้เงินเยอะก็จะให้เยอะ 30,000 บาท ตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้น่าจะ 6-7 เดือน 30,000 นี่เลี้ยงลูกด้วยไหม หรือของเราเอง? ติ๊ก : 30,000 ของเราเอง เอาอย่างนี้ พี่หนุ่มให้มากกว่า 30,000 ก็มี ถ้ามือถือหายพี่หนุ่มก็ไปซื้อให้ แต่บางเดือน หลังๆ นี่ 30,000 นี่ 1.หนี้เก่าของหนูที่ยังมีอยู่ มันได้เอาเงินเดือนนี้ไปผ่อน ช่วงโควิด ช่วงที่โดนอันนั้นไป มันจะมีเพื่อนที่รวมกันแล้วทวงเงินหนูในเวลาเดียวกัน หนี้สินทั้งหมดมันเกิดจากการพนันจริงไหม? ติ๊ก : ส่วนหนึ่งตอนแรกมันไม่ได้เกิดจากการพนันทั้งหมด มันมาจากการฝากเงินประจำของแบงก์ 3 ปีสุดท้าย หนูไม่มีเงิน 270,000 บาท 3 ปี หนูก็ไปยืมเพื่อจ่ายแบงก์ หนูไม่มีเงิน ปีสุดท้ายหนูเริ่มขัดสนมาก ดูคาติก็ต้องโดนยึดไป นู่นก็ให้ปล่อยยึด ดาวน์ผ่อนคอนโดก็ต้องปล่อย พี่หนุ่มทราบหมดเรื่องหนี้สินตรงนี้? ติ๊ก : หนี้สินตรงนี้ พี่หนุ่มไม่ได้ทราบหมด เพราะว่าตอนแรกๆ ที่เดินเข้ามารหนูก็ไม่ได้พูดหมด ความตั้งใจของหนูไม่ได้มาเพื่อเงิน ตอนนั้นความรักคือไม่อยากเอาภาระของเราไปให้กับพี่หนุ่มทั้งหมด ตอนนั้นพี่หนุ่มไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ต้องมารับภระของหนู หนี้สินทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่พอจะบอกได้ไหม? ติ๊ก : ตอนแรกหนูคุยกับพี่สาว คำนี้เป็นคำที่คนถามกันเยอะมาก หนี้สินเหลือเท่าไหร่ ในใจรู้ว่าเท่าไหร่ แต่พอคิดไปคิดมาเมื่อวานนี้ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ หนี้สินเรามีมากกว่านั้น น่าจะมี 2.5-3.5 ล้าน ตรงนี้ทุกอย่างเคลียร์โล่ง ความที่อยู่ในใจ ความรู้สึกทุกอย่าง ปัญหามันมาจากเรื่องเงิน เราต้องแก้จากเรื่องเงิน แล้วเรื่องทองของลูกยังอยู่ไหม? ติ๊ก : ยังอยู่ แต่บอกไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่ไหน ต้องขอโทษจริงๆ เพราะตอนนั้นที่หนูเก็บทองไว้ เพราะหนูมีสิทธิที่จะเก็บของลูกไว้ แล้วมีความคิดอยากเอาไปขายตามที่เราบอกพี่หนุ่มไหไหม? ติ๊ก : หนูขายค่ะ หนูได้ทำทุกอย่างที่พี่หนุ่มออกมาพูด ทองหนูออกไปขาย แต่ตอนที่หนูซื้อคืนลูก เมื่อวันที่8 เมษายน หนูก็ได้ไปซื้อทองให้ลูก แต่ล็อกเก็ตหนูไม่ได้ขายนะคะ ทองล็อกเก็ตอันนั้นที่มีปัญหา ไปถามพี่ชายอีกรอบก็ได้ว่าหนูเอาไปขายหรือคะ หนูพูดได้แค่นี้ แต่ก็มีคนต่อว่าเราเป็นแม่ที่ไม่ดี? ติ๊ก : หนูยอมรับได้หมด วันที่หนูโพสต์ในไอจี หนูรับได้ แต่เนื่องด้วยสาเหตุอะไรหนูไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ หนูไม่ขอแก้ตัว หนูขอยอมรับความผิดทั้งหมดทุกอย่างที่ทำมา มันตันมากจนคิดว่าไม่อยากอยู่เลยไหม? ติ๊ก : มันเป็นคะ ตอนที่ออกมา ซึ่งมันไม่มีบ้านแล้ว มันไม่ลูก ตื่นมาไม่เจอใครเลยสักคน หนูอยู่คนเดียวในห้องไม่ไปไหน อยู่ด้วยเสื้อผ้าชุดเดพียว เพราะตอนออกมาพี่เขาให้หนูเก็บของ แต่หนูคิดว่าคงไม่ร้ายแรงถึงขนาดนั้น ได้คุยกับทางทนายของพี่หนุ่มด้วยที่เขาบอกว่าถ้าทำแบบนี้ อนาคตจะได้เจอลูก? ติ๊ก : หนูจะต้องสืบว่าหนูจะได้ข้อมูลจากใคร ยังไง เพื่อให้หนูเดาทางความคิดของพี่หนุ่มได้บ้าง ซึ่งหนูทำอย่างนั้นหนูไม่ได้ต่อต้าน แล้วก็ไม่อยากทำอะไรไม่ดี หนูอยากกลับไปตรงนั้น ตรงนั้นที่หนูกลับไปอยู่คือวีจิ ถ้าวันนั้นในความเป็นเมียเป็นไม่ได้แล้วไม่เป็นไร หนูเคารพการตัดสินใจของพี่หนุ่ม แต่ความเป็นแม่ ขอให้หนูเป็นเถอะ มันมี 5 สิ่งที่เขาบอกว่าเราต้องทำ? ติ๊ก : หนูประมวลมาเอง 5 สิ่งนี้คือ 1.ให้พูดความจริง ยอมรับความจริง ทำได้คะ 2.แก้ไขปรับปรุงในสิ่งที่ผิด กลับตัวเป็นคนใหม่ อันนี้ทำอยู่ 3.ไม่อยากให้ผ่าแผลเก่า เขาน่าจะเป็นห่วงสภาพจิตใจ คือเหมือนเรามาออกรายการพี่ก็จะถามเรื่องที่หนูเจ็บปวด การมาออกรายการครั้งนี้กลัวไหมว่าพี่หนุ่มจะโกรธ? ติ๊ก : ตอนแรกๆ หนูกังวล หนูอึดอัดมาก เพราะเพิ่งออกจากบ้าน ไม่มีสติมากมาย กลางวันร้องไห้ กลางคืนร้องไห้ นอนไม่ได้ จะออก จะพูดยังไง พูดอะไรได้บ้าง ไม่รู้กฎหมายพูดไปเดี๋ยวพี่หนุ่มจะโกรธ พูดอย่างนี้ไปเดี๋ยวเขาจะไม่รัก กลัวเขาจะไม่รัก กลัวเขาจะไม่ให้อภัย
ภาพจากอีจัน