ครูนาฏศิลป์ เลี้ยงจิ้งหรีดส่งขายสร้างรายได้หลักแสนบาท ต่อเดือน

บ้าหรือเปล่า ? “ เลี้ยงจิ้งหรีด ” เดี๋ยวก็เจ๊งไปไม่รอดหรอก !!! คําสบประมาทของคนรอบข้าง เมื่อ 1 ปี ที่แล้ว เป็นแรงผลักดันทำให้ “ นภดนุช เมตมาตย์ หรือน้องตาล ” อายุ 28 ปี หญิงสาวชาวอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ลุกขึ้นสู้อีกครั้งจนประสบความสําเร็จจากเงินทุนก้อนสุดท้าย หลังทําธุรกิจเครื่องสําอาง แต่ไปไม่รอด ! ปัจจุบัน น้องตาล มีอาชีพคือการทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด มีรายได้ต่อเดือน 70,000 – 100,000 บาท ตอนนี้เธอกำลังขยายฟาร์มเพิ่ม และดึงคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้คนในหมู่บ้านมีรายได้

น้องตาล บอกว่าจุดเริ่มต้นของการเข้ามาเป็นเกษตรกรคนเลี้ยงจิ้งหรีด เธอเรียนจบจากวิทยาลัยนาฏศิลป์นครราชสีมา ครุศาสตร์ เอกดนตรีคีตศิลป์ไทย เมื่อเรียนจบ น้องตาล เดินทางตามหาความฝันอาชีพครู ซึ่งอาชีพนี้เป็นสิ่งที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน เดินทางหาสอบเป็นครูผู้ช่วยไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นครู จึงตัดสิ้นใจไปเรียนสักคิ้ว และเปิดร้านที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับการขายของออนไลน์ ขายเครื่องสําอาง ลงทุนไปกว่า 400,000 บาท แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ธุรกิจมีปัญหา จึงไม่ประสบผลสำเร็จ เธอตัดสิ้นใจกลับไปอาศัยอยู่กับคุณพ่อ ที่จังหวัดสระบุรี และเปิดร้านสักคิ้วอีกครั้ง แต่ยังไม่ทิ้งความฝันอยากเป็นครู ความรู้ สิ่งที่ได้ร่ำเรียนมาอยากถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เด็กๆ จึงเข้าไปเป็นครูจิตอาสาโดยไม่รับค่าตอบแทน ที่โรงเรียนวัดหนองสุทธะ จังหวัดสระบุรี สอนเด็กชั้น ป.1 – ป.6 วิชาดนตรี นาฏศิลป์และสอนขับร้องเพลงไทยเดิม พร้อมกับการมองหาอาชีพเสริม จนมาพบการเลี้ยงจิ้งหรีด โดยมองว่าอาจเป็นรายได้ให้กับครอบครัว ที่ช่วยกันทำแล้วเกิดเป็นรายได้หลัก เติบโตในอนาคต รองรับพ่อแม่ที่จะเกษียณงานในอนาคต จึงเริ่มศึกษาหาความรู้การทำฟาร์มจิ้งหรีดเดินทางไปดูงานจากหลายๆที่ และมองหาตลาดรองรับจิ้งหรีดของเธอ

เมื่อเริ่มทำฟาร์มจิ้งหรีดมาได้สักระยะหนึ่ง โรงเรียนที่น้องตาลไปเป็นครูจิตอาสา ก็เปิดรับครูอัตราจ้าง โดยได้รับค่าตอบแทนเงินเดือน 9,000 บาท จึงกลับเข้าไปเป็นครูอีกครั้ง และทำควบคู่กับการเลี้ยงจิ้งหรีด เริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมองเห็นสิ่งที่เป็นไปได้คือการขายไข่จิ้งหรีด ขายมูลจิ้งหรีด ทุกอย่างเป็นรายได้หมด เธอใช้ระยะเวลา 2 ปี ในการสร้างฟาร์มจิ้งหรีด ชื่อการะเวก ฟาร์มจิ้งหรีด สระบุรี และอีกแห่งอยู่ที่ อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ บ้านของคุณแม่ ตอนนี้มีทั้งหมด 2 แห่ง และกำลังขยายฟาร์มเพิ่มเติมพร้อมกับดึงคนในหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ ไม่ต้องจากบ้านไปทำงานต่างถิ่น ทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดทำอยู่ที่บ้านก็มีคนมารับซื้อ

สำหรับการเลี้ยงจิ้งหรีดไม่เกิน 45 วัน ก็สามารถจับขายได้ ระยะการเติบของจิ้งหรีดตัวเต็มวัยถ้าหน้าร้อนจิ้งหรีดจะโตเร็ว 33 – 38 วัน ก็สามารถจับขายได้ ถ้าหน้าหนาวจิ้งหรีดจะใช้ระยะเวลาในการเติบโตนานกว่า 35 – 45 วัน ราคาขายปลีกตอนนี้จะอยู่ที่ 120 – 180 บาท แล้วแต่พื้นที่ ส่วนราคาขายส่งจะอยู่ที่ 80 – 100 บาท แล้วแต่ปริมาณหรือความพอใจในการต่อรองระหว่างฟาร์มกับพ่อค้าที่มารับซื้อ จิ้งหรีดเป็นแมลงที่มีโปรตีนสูงมาก สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น จิ้งหรีดทอด คนอีสานชอบนำไปคั่ว แกงจิ้งหรีดใส่หน่อไม้ดอง ยำจิ้งหรีดใส่มะม่วง ลาบจิ้งหรีด ผัดเผ็ดจิ้งหรีด นอกจากนี้ยังสามารถนำไปแปรรูป บดผงเป็นแป้งจิ้งหรีด นำแป้งมาแปรรูปเป็นข้าวเกรียบจิ้งหรีด หรือบางที่ส่งออกต่างประเทศแบบบดผง ได้อีกด้วย แต่ฟาร์มต้องผ่านมาตราฐาน GAP

ส่วนสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงนี้ เพราะการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด – 19 กระทบในหลายส่วน เช่น เกษตรกร ผู้ประกอบการ โรงงานปรับลดพนักงาน หรือบางแห่งต้องปิดตัวลง ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แน่นอนว่าหลายคนคงมองว่า มีอาชีพอย่างเดียวอาจไม่มั่นคง ! คงต้องมีอาชีพเสริม ทำควบคู่กับอาชีพหลักเพื่อให้ฝ่านวิกฤตินี้ไปได้ แล้วการทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 หรือไม่ แน่นอนกระทบกับฟาร์มที่เลี้ยงเพื่อส่งออกอย่างเดียว แต่สำหรับน้องตาล เธอบอกว่าไม่ได้รับผลกระทบนี้ เพราะฟาร์มของเธอเน้นส่งขายให้กับลูกค้ารายย่อย และเน้นหลายๆเจ้า เพราะตอนนี้ต้องบอกว่าจิ้งหรีด เป็นอาหารทางเลือกสำหรับคนที่ชอบรับประทานแมลง

ใครที่อยากศึกษาการทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด หรืออยากมีรายได้เพิ่มเป็นอาชีพเสริม ซึ่งบางคนกลายเป็นรายได้หลักไปแล้วสำหรับการเลี้ยงจิ้งหรีดส่งขาย ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้เลย น้องตาลยินดีให้คำแนะนำให้กับผู้ที่สนใจอาชีพนี้ โทร 094-4479326 และ062-6879291 การะเวก ฟาร์มจิ้งหรีด สระบุรี