ตำรวจส่งตัวรอง ผอ.ควงปืนขู่คู่กรณี ฟ้องศาล พบเคยมีคดีดังตบหัวนักเรียน เมื่อปี 2558 เจ้าตัวสารภาพผิดขอโทษที่ทำให้ตกใจ?
คืบหน้ากรณีที่มีคลิปภาพชายซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา เดินถือสิ่งของลักษณะคล้ายอาวุธปืนสงครามเข้าไปพูดจาข่มขู่คู่กรณีที่มีปากเสียงกัน เนื่องจากคิดว่าคู่กรณีลัดแซงคิวระหว่างนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพรถใน ตรอ.(สถานตรวจสภาพรถเอกชน) แห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมานั้น
ต่อมาตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบ และพบว่า สิ่งของที่คล้ายอาวุธปืนสงครามนั้นเป็นแค่เพียงพิณที่ทำจากไม้ แต่ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมจากกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ขณะที่คู่กรณีก็ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับฝ่ายรองผู้อำนวยการคนดังกล่าว
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ล่าสุดวันนี้ (11 สิงหาคม 2563) พันตำรวจเอก สุรจิตร์ วิวรรธน์สมบัติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโชคชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว และในวันนี้จะนำตัวรองผู้อำนวยการโรงเรียนผู้ก่อเหตุส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาความผิดข่มขู่ผู้อื่นให้ตกใจกลัว ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันทางต้นสังกัด คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และเตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวเพื่อเอาผิดทางวินัยกับรองผู้อำนวยการโรงเรียนผู้ก่อเหตุด้วยเช่นกัน
ภาพจากอีจัน
ยังมีข้อมูลอีกว่าว่ารองผู้อำนวยการโรงเรียนที่ก่อเหตุ คือ นายไอสูรย์ปิยธร มีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนจระเข้หินสังฆกิจวิทยา ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งก่อหน้านี้เมื่อ เดือนสิงหาคมปี 2558 หรือเมื่อ 5 ปีก่อน นายไอสูรย์ปิยธร ซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสาง อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ได้ก่อเหตุใช้ฝ่ามือตบศีรษะเด็กนักเรียนชายชั้น ม.5 อย่างรุนแรงหลายครั้งที่บริเวณหน้าเสาธง ขณะที่กลุ่มเด็กนักเรียนกำลังชุมนุมเรียกร้องให้ผู้บริหารโรงเรียนชี้แจงถึงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส จนกระทั่งมีคลิปภาพหลุดออกมาจนเป็นข่าวดังมาแล้ว ซึ่งครั้งนั้นต้นสังกัดได้มีคำสั่งย้าย นายไอสูรย์ปิยธร จากโรงเรียนเสิงสาง ให้มาเป็นรองผู้อำนวยการที่โรงเรียนจระเข้หินสังฆกิจวิทยาดังกล่าว
ภาพจากอีจัน
ขณะเดียวกัน นายไอสูรย์ปิยธร กล่าวยอมรับว่า ยอมรับไม่ได้ที่ตัวเองถูกคู่กรณีลัดคิวตรวจสภาพรถยนต์ เพราะตนเป็นคนรักษาระเบียบวินัย จนเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอารมณ์ร้อน เดินไปหยิบวัสดุคล้ายอาวุธปืนสงครามมาโชว์ แค่ต้องการข่มขู่ ซึ่งวัสดุดังกล่าวเป็นแค่พิณ เครื่องดนตรีพื้นบ้าน ทำจากไม้ สีดำ น้ำหนัก 3 กิโลกรัม รูปลักษณะเทียบเคียงกับอาวุธปืนสงคราม ซึ่งใครที่ไม่เคยเห็นก็อาจจะตกใจกลัว ยอมรับว่าผิดพลาดที่ไปหยิบพิณออกมาโชว์คู่กรณีจนตกใจกลัว ขอยอมรับผิด และก่อนหน้านี้ได้ขอโทษคู่กรณีไปแล้ว
ภาพจากอีจัน
ส่วนเครื่องดนตรีพิณรูปทรงอาวุธปืนสงคราม มีผู้ปกครองของศิษย์เก่านำมาบริจาคให้โรงเรียน ซึ่งออกแบบตามหัวคิดสร้างสรรค์ออกมาเป็นรูปทรงปืนสงคราม ซึ่งตนกำลังนำไปซ่อมแซมสายลวดที่ขาด เพื่อเตรียมนำมาใช้งานจริงกับวงดนตรีของโรงเรียน ไม่ได้ตั้งใจพกพาใส่ไว้ในรถเพื่อใช้ข่มขู่ผู้ใด และพร้อมยอมรับบทลงโทษตามกระบวนการกฎหมาย
ด้านพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี บอกว่า ข้อหาข่มขู่ทำให้หวาดกลัวเป็นคดีลหุโทษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหายอมรับผิด ก่อนควบคุมตัวส่งฟ้องศาล เพื่อพิจารณาบทลงโทษต่อไป
บทเรียนครั้งใหญ่อย่าใช้อารมณ์อยู่เหนือปัญหา คุยกันดีกว่าใช้อารมณ์ปะทะ
อ่านข่าวเก่า
| รอง ผอ. เดือด! ถือพิณทรงคล้ายปืน หวังขู่คู่กรณีให้กลัว หลังคิดว่าถูกแซงคิว |