นายจ้างเฮ! ราชทัณฑ์ ยกเว้นภาษี ผู้ประกอบการที่รับผู้พ้นโทษเข้าทำงาน

คืนคนดีสู่สังคม ! นายจ้างรับผู้พ้นโทษเข้าทำงาน ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ร้อยละ 50 ของรายจ่ายที่เป็นค่าแรง ถึง 31 ธ.ค.63 นี้เท่านั้น

(11 สิงหาคม 2563) กรมราชทัณฑ์ ประกาศยกเว้นภาษีผู้ประกอบการที่รับผู้พ้นโทษเข้าทำงาน ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร(ฉบับที่ 704) พ.ศ.2563 ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563

โดยนายจ้างสามารถนำรายจ่ายที่เป็นค่าจ้างผู้พ้นโทษ มายกเว้นภาษีเงินได้ เป็นจำนวนร้อยละ 50 ของรายจ่าย เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและสนับสนุนให้นายจ้างเกิดการจ้างงานผู้พ้นโทษ ก่อให้เกิดการสร้างงาน-รายได้ ผู้พ้นโทษสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ช่วยลดการกระทำผิดซ้ำ ช่วยแก้ไขและพัฒนานิสัยของผู้ต้องขัง ให้มีทักษะ มีความสามารถ โดยมีการติดตามผลการมีงานทำของผู้พ้นโทษ ผ่านระบบศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ (ศูนย์ CARE) ของเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ

ภาพจากอีจัน

นายจ้างที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษี จะต้องเป็นบริษัทหรือ นิติบุคคลเท่านั้น และต้องมีการจ้างงานผู้พ้นโทษเข้าทำงาน โดยผู้พ้นโทษจะต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดที่พ้นโทษครบกำหนดตามหมายศาล หรือเป็นนักโทษที่มีหนังสือสำคัญพักการลงโทษกรณีปกติ หนังสือสำคัญพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ หรือหนังสือสำคัญการปล่อยตัวลดวันต้องโทษจำคุก ซึ่งจะต้องเป็นผู้พ้นโทษที่ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำเป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีเท่านั้น
สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ 50 ของรายจ่าย ที่เป็นค่าจ้างผู้พ้นโทษเฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 15,000 บาท ต่อคนต่อเดือน ซึ่งการยกเว้นภาษีในครั้งนี้เฉพาะรอบระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม พ.ศ.2563 นี้เท่านั้น
โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ตามมาตรา 4 ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 59 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากรกรณีการจ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย ตั้งแต่เดือนที่รับผู้พ้นโทษเข้าทำงานจนถึงเดือนสุดท้ายของระยะเวลาบัญชีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้