ปางช้างเชียงใหม่ ลุยทำนาปลูกข้าวเลี้ยงช้าง 80 เชือกพยุงวิกฤติช่วยช้างรอด!

ชาวบ้านชนเผ่าดาราอั้งร่วมกับปางช้างสา ลุยทำนาปลูกข้าวเลี้ยงช้าง 80 เชือก เพื่อนำข้าวเหนียวมาเป็นอาหารให้ช้างกิน พยุงค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤติ

วิกฤติมาช้างสัตว์ใหญ่คู่ประเทศไทยก็ทุกข์ไม่ต่างจากคน
ชาวบ้านชนเผ่าดาราอั้งรวมทั้งผู้บริหารและพนักงานปางช้างแม่สา ช่วยกันดำนาปลูกข้าวเหนียวพันธ์สันป่าตอง บนผืนนาในพื้นที่ของปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กว่า 15 ไร่ เพื่อสร้างผลผลิตข้าวเหนียว ใช้สำหรับเป็นอาหารเลี้ยงช้างและสำหรับชาวบ้านและพนักงานทุกคน ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งการปลูกข้าวเลี้ยงช้างที่เรียกว่าเกษตรเลี้ยงช้าง เป็นการปรับตัวของปางช้างแม่สา เพื่อประคับประคองปางช้างเก่าแก่ ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ให้อยู่คู่เมืองเชียงใหม่ได้ต่อไป โดยการปลูกข้าวเลี้ยงช้างในวันนี้

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

นางอัญชลี กัลป์มาพิจิตร กรรมการผู้จัดการปางช้างแม่สา บอกว่า ผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากวิกฤตโรคระบาดโควิด 19 ที่ทำให้ต้องหยุดให้บริการนานเกือบ 4 เดือน แม้วันนี้จะกลับมาเปิดการท่องเที่ยวได้อีกครั้ง แต่รูปแบบก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามวิถีใหม่ ทุกวันนี้ปางช้างมีนักท่องเที่ยวในวันจันทร์ถึงศุกร์วันละประมาณ 100 คน ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์หรือหยุดยาวจะมีเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 300-400 คน แต่ก็ถือว่าลดลงไปมากหากเทียบกับช่วงเวลาปกติ รายได้ที่ลดลงทำให้ปางช้างต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบหลายอย่าง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


เกษตรเลี้ยงช้างที่เริ่มทำขึ้น ใช้พื้นที่บริเวณบ้านโต้งหลวง ด้านหลังปางช้าง ที่ก่อนหน้านี้เปิดให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตชนเผ่า แต่วันนี้ต้องเปลี่ยนรูปแบบ ให้พี่น้องชนเผ่ามาช่วยกันปลูกข้าว ปลูกผัก และ ทำปศุสัตว์เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ สร้างคลังอาหารเลี้ยงตัวเอง โดยจะให้พนักงานของปางช้างมาช่วยในวันจันทร์ถึงศุกร์ที่มีนักท่องเที่ยวน้อย

ภาพจากอีจัน


ขณะที่อาหารสำหรับเลี้ยงช้างที่มีอยู่ประมาณ 80 เชือก จะเลี้ยงด้วยหญ้าวันละ 15 ตัน เสริมด้วยกล้วย, อ้อย และ ข้าวเหนียวนึ่งผสมเกลือปั้นเป็นก้อนให้ช้างกิน โดยแต่ละวันจะใช้ข้าวเหนียววันละ 1 กระสอบ คาดว่าข้าวที่ปลูกเอง จะได้ข้าวเปลือก 300 กระสอบ เมื่อสีแล้วจะได้ข้าวสาร 100 กระสอบ สามารถเลี้ยงช้างได้ประมาณ 100 วัน หรือประมาณ 3 เดือน จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ประมาณ 1.1 แสนบาท

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

นางอัญชลี บอกว่า สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้ปางช้างต้องปรับทิศทาง ต้องหันมาทำอย่างอื่นด้วย อย่างเช่นทำเกษตรเลี้ยงช้าง ตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเลี้ยงตัวเองและหารายได้เสริม คิดว่าตอนนี้มาถูกทางแล้ว เราต้องยอมรับความจริง เพราะหากจะหวังแต่รายได้จากการท่องเที่ยวคงไม่ได้อีกต่อไป
อีจันขอเป็นกำลังใจให้ชาวช้างและช้างทุกๆเชือกนะคะ เราจะผ่านไปด้วยกัน

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน