รถกระบะทีมสาธารณสุข อ.สังขละบุรี พลิกคว่ำกลางป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

นาทีชีวิต! จนท.สาธารณสุข อ.สังขละบุรี ลุยเข้าป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ไปให้ความรู้ดูแลสุขภาพชาวบ้านในป่า แต่ฝนตกตลอดทาง ดินชุ่มน้ำ ทำรถกระบะพลิกคว่ำ จนท.เจ็บเล็กน้อย 5 ราย

ภาพเหตการณ์ที่ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี บันทึกภาพระหว่างการเดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจ ให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน และดูแลสุขภาพให้กับประชาชน ในพื้นที่บ้านทิไล่ป้า และบ้านสาละวะ ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งถือเป็นพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร อยู่ภายในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยในระหว่างที่รถกระบะ 4 ประตู คันสุดท้ายที่บรรทุกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเต็มคัน กำลังขับลงเนินดินที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน จนพื้นถนนกลายเป็นดินโคลน จู่ๆ รถก็ได้เกิดเสียหลักพลิกตะแคงไหลลงมาจากเนินดิน ท่ามกลางความตื่นตกใจของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ยืนรอลุ้นให้รถคันหลุดจากดินโคลนขึ้นมาได้

ภาพจากอีจัน

ดร.ศุภกร สุขประสิทธิ์ สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี ซึ่งเป็นผู้นำทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรีเดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจภายในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.15 น. ของวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี ใช้รถกระบะจำนวน 4 คัน นำเจ้าหน้าที่ 19 คน เข้าไปปฏิบัติภารกิจ ตามโครงการพัฒนาชุมชน ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งจุดที่เกิดเหตุ เป็นทางลงเนินดินช่วงระหว่าง บ้านทิไล่ป้ากับบ้านสาละวะ อำเภอสังขละบุรี ซึ่งระหว่างที่รถกระบะคันเกิดเหตุกำลังพยายาม ขับผ่านดินที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนรถได้เกิดเสียหลักพลิกตะแคง ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ในรถจำนวน 5 คน ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ยืนรอลุ้นเหตุการณ์ได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนที่อยู่ภายในรถ โดยพบว่าแต่ละคนได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลฟกช้ำ หัวปูดบวมกันไปคนละเล็กน้อย โดยหลังจากใช้เวลาอยู่นานก็สามารถซ่อมแซมรถที่ได้รับความเสียหายจนสามารถเดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จได้

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ดร.ศุภกร ได้กล่าวอีกว่า การปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ถือเป็นภารกิจที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี ทำกันเป็นประจำ ในช่วงเวลาปกติที่ไม่มีฝนตกการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน แต่ในช่วงที่ฝนตกต่อเนื่องยาวนานเช่นนี้ ทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบาก เนื่องจากถนนทางไปยังหมู่บ้านแต่ละแห่ง มีความลาดชัน เมื่อถูกน้ำฝน ที่ตกลงมาต่อเนื่องก็จะกลายเป็นดินโคลนยิ่งทำให้การเดินทางยากลำบากมากขึ้นไปอีก ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางปฏิบัติภารกิจ 2-3 วันในแต่ละครั้ง ซึ่งครั้งนี้นับว่าโชคดีที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งอยู่ภายในรถได้รับบาดเจ็บกันเพียงเล็กน้อย จึงไม่มีความสูญเสียใดๆ เกิดขึ้น