ยังไงกันแน่ ยิ่งแจงยิ่งดราม่า ยิ่งแจงยิ่งลึก สำหรับคดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง บอส อยู่วิทยา คดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 หลังจากที่สำนักอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง และล่าสุดพนักงานสอบสวน คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เผยสาเหตุที่ไม่แจ้งข้อหา เพราะไม่พบสารแปลกปลอมที่เกิดจากยาเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหา ทั้งที่ทางมีผลตรวจทางนิติเวชวิทยายืนยันจากการตรวจเลือดของนายวรยุทธ โดยให้เหตุผลว่า ทันตแพทย์ยืนยันว่า ได้ให้ยาที่มีส่วนผสมของโคเคนในการรักษาทำฟัน?
แต่คำชี้แจงกลับสร้างความแคลงใจให้กับสังคมไม่น้อย เมื่อล่าสุดเพจเฟซบุ๊กทันตแพทย์หลายเพจ อย่างเช่นเพจ ห้องทำฟันหมายเลข 10 ซึ่งเป็นเพจออกมาโพสต์ถึงกรณีดังกล่าวโดยให้ข้อมูลว่า ไทม์แมชชีนมาแน่นอน
หนึ่งในยาที่ใช้มากที่สุดในทางทันตกรรม คือ ยาชา โดยยาชาตัวแรกที่นำมาใช้ทางการแพทย์คือโคเคน (cocaine) ในปี ค ศ. 1859 (150 ปีมาแล้ว!!!) แต่ด้วยข้อเสียของ โคเคนที่มีระยะเวลาการออกฤทธิ์สั้น
และมีฤทธิ์เสพติด จึงมีการพัฒนายาที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายโคเคน ชื่อ Procaine ขึ้นในปี ค. ศ. 1904
แต่ในปีค.ศ. 1948 มีการนำยาชาที่มีสูตรโครงสร้างต่างไปจาก cocaine และ procane ได้แค่ lidocaine และมียาชาที่พัฒนาต่อเนื่องตามมาได้แค่ mepivacaine (ค.ศ. 1965) prilocaine (ค.ศ. 1983;ยาชนิดนี้ไม่มีใช้ในประเทศไทย) และ articaine (ค.ศ. 2000)โดยยาชาทั้งสามกลุ่มนี้มีสูตรโครงสร้างคนละแบบกับโคเคน รวมทั้งกระบวนการขับยาออกจากร่างกายก็ได้สารเคมีคนละกลุ่มกับ โคเคน
เช่นเดียวกับเพจ ใกล้หมอฟัน ที่เห็นพ้องต้องกันว่า โคเคนไม่ได้ใช้ในทางทันตกรรมมานานแล้ว โดยระบุว่า การรักษาทางทันตกรรมปัจจุบันเราไม่ใช้โคเคน มีการใช้โคเคนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เพื่อใช้ระงับอาการปวดจากการทำฟันตัวแรกๆ แต่โคเคนได้เสื่อมความนิยมลงเพราะขนาดที่ใช้รักษาใกล้เคียงกับขนาดที่เป็นพิษและฤทธิ์เสพติด ซึ่งไม่มีการใช้แล้วในปัจจุบันสำหรับใช้เป็นยาชาเฉพาะที่ในงานทันตกรรม การรักษาทางทันตกรรมโดยเฉพาะการใช้ยาชาเฉพาะที่ ในปัจจุบัน จะใช้สารที่พัฒนาจากโคเคน ที่มีความปลอดภัย หรือมีพิษน้อยกว่า เช่น ลิโดเคน เมพิวาเคน อะทิเคน ซึ่งยาชาที่เราฉีด จะไม่ฉีดเข้าเส้นเลือด แต่จะฉีดเพื่อให้ยาซึมซับระงับอาการเจ็บปวดบริเวณฟัน หรือเส้นประสาทตรงบริเวณนั้น
(อ้างอิงจากเอกสารสอนทันตกรรมเรื่องยาชาในทางทันตกรรม ,อาจารย์ อุดมรัตน์ เขมาลีลากุล ,ภาควิชาศัลยศาสตร์ช่องปาก,คณะทันตแพทยศาสตร์ ,มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,http://web1.dent.cmu.ac.)
ซึ่งตอนนี้สังคมต่างจี้ถามพนักงานสอบสวนว่า ว่าโรรงพยาบาลทันตกรรมที่บอสได้ไปทำฟันในวันนั้นคือโรงพยาบาลอะไร จะได้รู้ว่าหากไปทำฟันที่โรงพยาบาลนั้น คนไข้จะมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย!