เด็ก ม.2 ไลฟ์สดขายสบู่-ครีม ถูกบูลลี่ รุมเหยียดสีผิว

สาวน้อยวัย 14 ปี ไลฟ์สดขายของ เจอคอมเมนต์บูลลี่รูปร่างหน้าตา เหยียดสีผิว

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อเด็กหญิงคนหนึ่งไลฟ์สดขายครีม และสบู่ประทินผิวขาว ก้อนละ 19 บาท แต่กลับถูกคนที่เข้าไปชมการไลฟ์สดขายสินค้าบูลลี่ รวมถึงต่อว่าต่างๆ นาๆ เสียๆ หายๆ จนน้องต้องไลฟ์สดขายของทั้งน้ำตา ทำให้ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของผู้ที่เข้ามาบูลลี่น้อง เป็นจำนวนมาก

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ (21 ก.ค. 63) ทีมข่าวได้พูดคุยกับ เด็กหญิงในคลิป ซึ่งก็คือ เด็กหญิงเกณิกา ศิริ หรือ น้องเนย อายุ 14 ปี โดยน้องเนย เปิดเผยว่า ครอบครัวไม่ได้ลำบากอะไร แต่ด้วยความที่พ่อแม่มีอาชีพค้าขายตามตลาดสดและตลาดนัด ตนเองเห็นอาชีพค้าขายแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ จึงเริ่มขายของตามตลาดนัดมาตั้งแต่เรียนชั้น ป.3 จนกระทั่งมาถึงช่วง ป.6 จึงเริ่มหันมาขายของออนไลน์ เพื่อเป็นการหารายได้เสริมให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง รวมถึงเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวไม่ต้องไปรบกวนพ่อแม่

ภาพจากอีจัน

ส่วนที่ไลฟ์สดขายสินค้าประเภท สบู่ผิวขาวและครีมบำรุงผิวหลากหลายประเภท ภายในเพจๆ หนึ่ง จนมีแฟนเพจบางคนเข้าไปบูลลี่และต่อว่าเกี่ยวกับผิวแม่ค้าที่มีผิวดำแต่มาขายสินค้าเสริมความงามทำให้ผิวขาว น้องเนยเผยว่าไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะมีคนให้กำลังใจ ขอบคุณที่มีคนให้กำลังใจ

จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมา มีแฟนเพจที่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ได้เข้าไปโพสต์ ไปด่าเสียหาย ด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคาย จึงได้ปรึกษาพ่อกับแม่ ก่อนไปแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว

ภาพจากอีจัน

ซึ่งเรื่องนี้ ครอบครัวและเพื่อนคอยให้กำลังใจตลอดเวลา เหมือนเป็นแรงผลักดันให้มีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป ก่อนหน้านี้ขายสบู่ก้อนละ 19 บาทได้เพียงไม่กี่ก้อน มีรายได้วันละประมาณ 2 ถึง 3 ร้อยบาท แต่หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาขายสบู่ได้เป็นร้อยๆ ก้อนเลยทีเดียว ตนจึงอยากขอบคุณลูกค้าที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนน้องเนยด้วยดีตลอดมา

และล่าสุด มีสินค้าหลายแบรนด์ ได้ติดต่อให้ตนช่วยรีวิวสินค้าให้ ซึ่งตนรู้สึกดีใจและขอบคุณมาก ที่มีผู้ใหญ่ใจดีคอยให้โอกาส

ภาพจากอีจัน

ด้านคุณครูที่ปรึกษาน้องเนย เผยว่า น้องเนยเป็นหัวหน้าห้อง มีความรับผิดชอบและมีความเป็นผู้นำสูง อีกทั้งยังเป็นที่รักของเพื่อนๆ ในห้องอีกด้วย

ส่วนกรณีที่น้องเนยถูกบูลลี่และต่อว่าในขณะไลฟ์สดขายสินค้านั้น รู้สึกสงสารเด็กและให้กำลังน้องเนยตลอดมา เพราะเด็กคนนี้เติบโตมาในครอบครัวที่มีอาชีพค้าขาย เด็กจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมในยุคออนไลน์ เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวอีกทางหนึ่ง ซึ่งน้องเนยเป็นเด็กที่มีความตั้งใจดี คิดดีกับเพื่อนๆรอบตัว จึงไม่อยากให้พบเจอกับเรื่องแบบนี้