วันนี้ (8 ก.ค.63) เกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนใจ ในพื้นที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ
อาฆ่าหลานชายแล้วนำศพไปฝังหน้าบ้านหลังหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ เมื่อตำรวจไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
พบชายต้องสงสัยทราบชื่อคือนายสมชาย อายุ 56 ปี อยู่ภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว จากการสอบถามผู้แจ้งเหตุ ซึ่งเป็นญาติของผู้ก่อเหตุและผู้ตาย ทราบว่า นายสมชาย มีอาการทางจิต และอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ถือจอบไว้ในมือ ตำรวจจึงได้กระจายกำลังล้อมบ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าควบคุมตัวและนำตัวผู้ก่อเหตุไปสงบสติอารมณ์ และตรวจร่างกายที่ รพ.อำนาจเจริญ
หลังตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบมีดอีโต้มีรอยคราบเลือด และจอบในครัว ก่อนที่จะออกมาตรวจสอบบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าผู้ก่อเหตุจะนำร่างผู้ตายมาฝังไว้ที่ตามที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจึงขุดบริเวณดังกล่าวโดยรอบ จนเจอศพของ นายระพิน อายุ 41 ปี ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาเพื่อให้แพทย์เวรทำการชันสูตรพลิกศพ จากการชันสูตรเบื้องต้นที่บริเวณลำคอมีการถูกเชือดจนเกือบขาด แขนด้านซ้ายมีรอยถูกฟันอยู่ 4 แห่ง และมีรอยถูกฟันที่บริเวณใบหน้าด้านซ้าย 2 แห่ง และบริเวณศีรษะ 1 แห่ง
จากการสอบถามนางอรอุมา ผู้แจ้งเหตุ และเป็นญาติของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้อากับหลานเคยมีเรื่องทะเลาะกันถึงขั้นแทงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง โชคดีที่ครั้งนั้นหลานชายวิ่งหนีเอาตัวรอดไปได้หวุดหวิด โดยบ้านหลังดังกล่าวมีผู้ก่อเหตุ และนางบุญยัง อายุ 90 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุอยู่กันเพียงสองคน ผู้ตายได้เดินทางมาเยี่ยมยายที่บ้านและได้ซื้อของมาฝากยาย ทีแรกตนก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น เพราะเรื่องที่อาหลานเคยทะเลาะกันก็ผ่านมา 3-4 ปีแล้ว
จนกระทั่งเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่าอากับหลานมีปากเสียงทะเลาะกันให้ตนเข้ามาช่วยห้าม ตนจึงได้รีบเข้ามาดู พอมาถึงก็พบผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกำลังฝังอะไรบางอย่างอยู่หน้าบ้าน ตนได้สอบถาม ก็ตอบกลับมาว่าฝังหมา หมามันตายแล้ว ตนจึงถามหาหลานชาย แต่ผู้ก่อเหตุก็เงียบไปแล้วเดินไปที่หลังบ้าน ตนจึงรีบโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบทันที ก่อนที่ตำรวจจะมาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปและขุดเจอศพของหลานชาย
ส่วนสาเหตุ ตนคาดว่าผู้ตายอาจมีอาการมึนเมาเพราะชอบดื่มเหล้าอยู่เป็นประจำ เกิดพูดจาทำให้นายสมชายไม่พอใจ และมีปากเสียงกันจนถึงขั้นฆ่าแกงกันในที่สุด
เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และจะมีการสอบสวนและหาหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป