รวบแก๊งหัวใส! แฮกเฟซบุ๊ก – ไลน์ สวมรอยหลอกยืมเงินเหยื่อ

ตำรวจกองปราบฯ รวบแก๊งแฮกเฟซบุ๊ก – ไลน์ สวมรอยแชทหลอกยืมเงิน สารภาพทำแบบนี้มาตั้งแต่ปี 59 ได้ทรัพย์สินมาแล้วหลายล้าน

ตำรวจกองบังคับการปราบปราม, ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป., เจ้าหน้าที่สืบสวน สน.มีนบุรี และ ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ดังนี้
1.น.ส.ศรารัตน์ หรือ ขวัญ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัด นครราชสีมา ที่ 149/2563 ลงวันที่ 1 ก.ค.63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมที่ หน้าบ้านพักภายในซอยร่มเกล้า 3 ถ.ร่มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดี

ภาพจากอีจัน
2.น.ส.ชุติกาญจน์ หรือ นิ๊งค์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ที่ 102/2563 ซึ่งต้องหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” จับกุมที่ หน้าห้องพัก ภายใน ซ.สุวินทวงศ์ 6 ถ.สุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ดำเนินคดี 3.นายอภิชาติ หรือ บอย อายุ 35 ปี แจ้งข้อกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย จับกุมที่ หน้าห้องพัก ภายใน ซ.สุวินทวงศ์ 6 ถ.สุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ส่ง พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดี
ภาพจากอีจัน
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากตำรวจได้รับข้อมูลว่า มีกลุ่มคนร้ายแฮกบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กและไลน์ของผู้อื่น และ นำไปใช้หลอกยืมเงินผู้เสียหายที่รู้จักและสนิทกับเจ้าของบัญชีที่ถูกแฮก โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กับ คนร้ายไปหลายราย ซึ่งแต่ละรายจะถูกให้โอนเงินประมาณครั้งละ 10,000 – 30,000 บาท ต่อมาตำรวจได้สืบสวนและออกหมายจับ ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 เนื่องจากมีพยานหลักฐานว่าเป็นเจ้าของบัญชี ธนาคารที่หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไป ต่อมา 5 ก.ค. 63 ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า น.ส.ศรารัตน์ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 หลบมาพักอยู่ภายใน ซ.สุวินทวงศ์ 6 ถ.สุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร จึงประสานชุดสืบสวน สน.มีนบุรี ร่วมตรวจสอบ และจับกุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดี
ภาพจากอีจัน
จากการสอบถาม น.ส.ศรารัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับว่าจ้าง จาก นายอภิชาติ หรือ บอย ผู้ต้องหาที่ 3 แฟนหนุ่มของ น.ส.ชุติกาญจน์ หรือ นิ๊ง ผู้ต้องหาที่ 2 ให้เปิดบัญชี โดยให้ค่าจ้างบัญชีละ 2,000 บาท จำนวน 3 บัญชี ซึ่งตนมีหน้าที่ในการกดเงินออกจากบัญชีที่ ตามที่นายบอยสั่ง และจะได้รับเงิน ค่าจ้างครั้ง ละ 1,000 – 2,000 บาท
ภาพจากอีจัน
จากนั้น ตำรวจจึงร่วมกันสืบสวนขยายผล พบว่า นายอภิชาติ และ น.ส.ชุติกาญจน์ พักอาศัยอยู่ ห้องพักภายใน ซ.สุวินทวงศ์ 6 จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ น.ส.ชุติกาญจน์ และ นายอภิชาติ อยู่หน้าที่พัก จึงเข้าจับกุม ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ดำเนินคดี ซึ่ง นายอภิชาติ ตำรวจตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความ ครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ส่ง พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดี
ภาพจากอีจัน
ซึ่งจากการสอบถาม น.ส.ชุติกาญจน์ ให้การรับสารภาพว่า นายบอย ได้ให้ตนเปิดบัญชีธนาคารให้ โดย ใช้เป็นบัญชีรับโอนเงิน ซึ่งตนทราบดีว่า นายบอย จะแฮกบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กและไลน์ของผู้อื่นก่อนหลอกยืมเงินโดย เงินดังกล่าวจะนำเอามาใช้ร่วมกัน ขณะที่ นายอภิชาติ ก็ให้การรับสารภาพว่า ตนก่อเหตุแฮกเฟซบุ๊กและไลน์ของผู้อื่นจริง แล้วจึงหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้ามา ทำแบบนี้มาตั้งแต่ ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ได้ทรัพย์สินมาแล้วหลายล้านบาท