แพทย์จับตา! ไข้หวัดหมู G4 ผสมรวม “นก-คน-หมู”

ไข้หวัดหมู G4 พบผสมควบรวม “นก -คน –หมู” แนะประชาชนสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง สามารถป้องกันโรคระบาดอยู่

วันที่ 1 ก.ค. 63 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว กรณีไข้หวัดหมู G4 ที่ระบาดในประเทศจีน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่า ติดจากคนสู่คน การติดต่อจากหมูสู่คนเท่านั้น ซึ่งพบพนักงานโรงฆ่าสัตว์ในประเทศจีน ติดเชื้อแล้ว โดยในโพสต์ระบุว่า

ทำไมต้องระวังไข้หวัดใหญ่คน รวมทั้ง นก หมู ด้วย?
ไข้หวัดหมู G4 ในจีน (รายงานในวารสาร PNAS 29/6/63)
G4 มีลักษณะเฉพาะตัวผสมควบรวมของทั้งสามสาย จากที่พบในยุโรป และนกในเอเซีย ควบ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และ H1N1 จากทวีปอเมริกาเหนือ ที่มียีนไข้หวัดใหญ่ จาก นก คน หมู

ภาพจากอีจัน
ยังไม่มายังคนมากนัก แต่ต้องจับตาทั้งนี้ ทั้งเป็นความเห็น จาก Robert Webster และ Edward Holmes และท่านอื่นๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโลก เพราะแกนไวรัสเป็นไข้หวัดนก และมีการติดเชื้อโดยไม่มีอาการ ไปแล้ว 4.4% จาก การสำรวจ คนทั่วไป 230 คน และคนที่ทำงานในโรงเรือนหมู ตัวเลขการติดเชื้อที่ไม่มีอาการจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 10% เชื้อนี้เริ่มพบหลังจากที่เกิดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 ที่ระบาดในช่วง 2009 ถึง 2011 และเจอไวรัสนี้ ตั้งแต่ 2011 และหนาแน่นขึ้นในหมู ตั้งแต่ 2016-2018 จนปัจจุบัน การที่เคยติดเชื้อ H1N1 2009 มาก่อนไม่ป้องกันเชื้อนี้ สำหรับต้นกำเนิดของ Eurasian avian-like swine influenza A (H1N1) (EAS-H1N1) รายงานครั้งแรกในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี 1986 และหลังจากนั้นเกิดในยุโรปหลายประเทศและจนกระทั่งพบในประเทศจีน ในปี 2011 รายงานใน J Virol พบเชื้อในหมูจากการสำรวจในประเทศจีน มีไวรัส 2009 pandemic (pdm09) like virus และเริ่มมีการควบรวมแล้ว ระหว่าง EAS-H1N1 และ แกนในจาก pdm/09 และมีรายงานผู้ป่วยที่เกิดจาก EAS-H1N1 ในปี 2011 รายงานใน Arch Virol เชื้อเหล่านี้เป็นวิวัฒนาการ การควบรวมสายพันธุ์ต่างๆ เข้าด้วยกันและสามารถคืบคลานข้ามทวีป ประเทศ และจะเริ่มจากการที่ติดเชื้อไม่มีอาการจนกระทั่งเริ่มมีอาการน้อยๆ และต้องมีความระมัดระวังอย่างสูงที่จะกลาย ทำให้มีอาการมากและมีการติดต่อในที่สุด “ระหว่างคนสู่คน” ปัจจุบัน คนงานในโรงฆ่าสัตว์ ในประเทศจีน จำนวนมากกว่า 10% ติดเชื้อไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่นี้แล้ว จากการตรวจ antibody และ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ยังป้องกันไม่ได้ ด้านหมอยง หรือ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา โพสต์ข้อความอธิบาย และให้ความรู้เกี่ยวกับ ไข้หวัดใหญ่หมู สายพันธุ์ใหม่ที่เป็นข่าว G4EAH1N1 เป็นข่าวที่ตื่นตระหนก ในความจริงที่ยังไม่เกิด ขออธิบายให้เข้าใจ เป็นสเต็ป อาจจะเข้าใจยากเสียหน่อย หมูเป็นสัตว์ที่พบไข้หวัดใหญ่อยู่แล้ว และมักจะไม่มีอาการ หมู จะเป็นตัวกลางที่ผสมให้เกิดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และเข้าสู่มนุษย์ได้ เมื่อเข้าสู่มนุษย์ ถ้าเป็นสายพันธุ์ใหม่ ทุกคนยังไม่เคยเป็นไม่มีภูมิต้านทานก็จะระบาดใหญ่ทั่วโลกได้ ไข้หวัดใหญ่ G4EAH1N1 เป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่พบในหมูประเทศจีน ชิ้นส่วนพันธุกรรมของไข้หวัดใหญ่จะมีทั้งหมด 8 ชิ้น จึงมีการแลกเปลี่ยนกันได้ G4 คือ genotype ที่ 4 EA คือ Eurasian avian และ H1N1 จึงเรียกเป็น G4EAH1N1 เป็นการผสมผสานของไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหมูในนกและในคน เข้าเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ คล้ายกับครั้งหนึ่งที่เคยมีจุดเริ่มต้นที่เม็กซิโก แล้วระบาดใหญ่ทั่วโลกเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่เกิด เป็นเพียงการศึกษาไข้หวัดใหญ่ในหมู ในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2018 ไข้หวัดใหญ่ในหมูมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา จากเดิมในอดีตไข้หวัดใหญ่ในหมู จะเป็นสายพันธุ์เดิม classical swine ต่อมามีการผสมผสาน เอาชิ้นส่วนของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ Euratian avian-like ซึ่งพบได้ตั้งแต่ก่อน 2010 เป็นสายพันธุ์ G1 หลังเกิดการระบาดด้วยไข้หวัดใหญ่ ทั่วโลก ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 2009 ชิ้นส่วนพันธุกรรมของ H1N1 2009 จึงเข้าไปผสมเป็นไส้ในของไข้หวัดหมู จึงเรียกสายพันธุ์นี้ว่า G2 ส่วน G4 มีการสอดแทรกสายพันธุ์อีก 1 ชิ้น triple-reassortant และพบมากขึ้นในช่วงระยะหลัง สายพันธุ์นี้จึงแตกต่างจาก G1 และ G2 ส่วน G 3, 5 และ 6 จะไม่ขอกล่าวในที่นี้ ทางการจีนทำการศึกษา พบว่า สายพันธุ์ลูกผสม G4 + EA (Eurasian avian-like) + Triple reassortant คือการผสมชิ้นส่วน 3 สายพันธุ์ G4EAH1N1 ภูมิต้านทานที่เกิดจากการฉีดวัคซีนในปัจจุบัน ไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์ที่พบนี้ได้ การทดลองในสัตว์ พบการติดต่อได้ง่ายผ่านละอองฝอย และการสัมผัสโดยตรง สัตว์ทดลองมีอาการค่อนข้างรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น และศึกษาในเซลล์เพาะเลี้ยง ไวรัสตัวนี้เข้าติดเชื้อได้ง่ายในเซลล์เยื่อบุ โดยสรุปก็คือว่า G4EAH1N1 สายพันธุ์นี้พบในหมูที่ประเทศจีน ในระยะหลังจนถึงปี 2018 และจากการทดลองภูมิต้านทานที่ฉีดวัคซีนประจำฤดูกาลในคน ไม่สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์นี้ได้ และไวรัสสายพันธุ์นี้ยังก่อโรคในสัตว์ทดลอง มีอาการมากกว่าสายพันธุ์อื่น และสามารถติดต่อได้ทั้งสัมผัสโดยตรงและทางฝอยละออง เหตุการณ์ทั้งหมดยังอยู่ในหมู ยังไม่เคยพบติดในคน และยังไม่มีการแพร่ระบาดในคนแต่อย่างใด เป็นการทดลองและมีสมมติฐานด้วยเหตุผลดังกล่าวในสัตว์ทดลอง ถึงจะพบในคน การพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ก็สามารถทำได้ง่าย เป็นเพียงเปลี่ยนสายพันธุ์ให้ตรงกับสายพันธุ์ที่มีการระบาด ข่าวที่เกิดขึ้น เป็นเพียงทางการจีนเสนอผลงานทางวิชาการ ในวารสารที่มีชื่อเสียง PNAS และเป็นงานวิจัยที่ทำมายาวนาน และศึกษาแบบลึกซึ้ง เราอยากเห็นงานวิจัยแบบนี้ในบ้านเรา แต่ต้องเป็นการลงทุนที่เป็นจำนวนมาก และหวังว่า คงจะไม่ถูกถามว่า ทำวิจัยแบบนี้แล้วเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นไหม เพราะเป็นงานวิจัยพื้นฐาน ผมเคยถูกถามมาแล้วว่าทำแล้วขายได้หรือเปล่า
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน