หมอเอย ทายาทรุ่น 2 หนองหว้าโมเดล มุ่งมั่นเพื่อเกษตรสุขภาพ

ทายาทรุ่น 2 ชุมชนเกษตรกรรมหนองหว้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

เมื่อความอุดมสมบูรณ์ ที่เจ้าสัวซีพีได้มอบให้ มาถึงจุดที่ต้องพัฒนาเพื่อความยั่งยืน

หมอเอย ภัทรมนต์ ไทยสยาม ลูกสาว หมอตั้ม ภักดี ไทยสยาม ผู้ร่วมพลิกโฉม 43 ปี แห่งความแห้งแล้ง สู่ความอุดมสมบูรณ์ ทั้งผืนดิน และความสุขในวันนี้ หมอเอยคือรุ่นที่สองของ ชุมชนเกษตรกรรมหนองหว้า เรียนจบหมอ แต่ก็ยังมีความสนใจในเกษตรกรรม วิถีดั่งเดิมของครอบครัว แต่เธอสนใจที่จะพัฒนา ให้เป็นเกษตรเพื่อสุขภาพ หมอเอย เล่าถึงวัยเยาว์ เมื่อ 30 ปี ถนนเป็นทางลูกรัง บ้านทุกหลังยังเป็นบ้านชั้นเดียว ความเจริญก็ยังไม่ค่อยเข้ามา ทุกครอบครัวก็เป็นครอบครัวเดี่ยวยังไม่มีลูกหลานเยอะ แต่สิ่งที่เห็นพวกเราจะอยู่กับเป็นกลุ่ม จะรู้จักกันทั้งหมู่บ้าน

สิ่งที่เปลี่ยนไปจากอดีตคือ ถนนลาดยางทุกบ้านมีรถในการสัญจร แสดงถึงความมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะเห็นได้ว่าลูกหลานแต่ละบ้าน เรียนจบระดับปริญญาตรีขึ้นไป

อาชีพเกษตรกรลำบากรายได้น้อย? หมอเอย บอกว่าถูกส่วนหนึ่งไม่ถูกส่วนหนึ่ง ลำบากแน่นอนอยู่แล้วเพราะต้อฃใช้ความอดทน เกษตรไม่สามารถทำในห้องแอร์ได้ ส่วนรายได้ไม่เยอะ แต่ก็ไม่อด พัฒนาจากหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน จนไปถึงเทคโนโลยีต่างๆ มีโรงเรือนเข้ามา ทำให้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่สบายและไม่ยากจน

ตอนเด็กๆ ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 กวาดขี้หมู ให้อาหาร ฉีดวัคซีน เหมือนคนงานเลย อันนี้คือ “learning by doing” และดูจากเพื่อนบ้าน ไม่ใช่แค่เลี้ยงหมู แต่ยังมีเลี้ยงไก่ ปลูกผัก ได้เรียนรู้จากชุมชนมาตั้งแต่เด็ก

หมอเอย… มองว่า อาชีพใดที่มีการรวมกลุ่มย่อมมั่นคงกว่าคนเดียว ส่วนด้านการเกษตรจะชอบก็ต่อเมื่อทุกอย่างมีการพัฒนา ดูจากตอนนี้กมีการเปลี่ยนแปลงจากอดีตเยอะมาก คิดว่าชอบเลย เพราะไปเรียนหมอ 10 ปี สุดท้ายกลับมาทำ เพราะชอบ

สิ่งที่เรียนมา คือสายสุขภาพ ซึ่งปัญหาสุขภาพครึ่งหนึ่งมาจากการกิน เมืองไทยการกิน 80% เป็นผลผลิตจากการเกษตร เราจะใช้ความรู้ตรงนี้เข้ามา เพราะถ้าเรากินดี โรคภัยไข้เจ็บครึ่งหนึ่งมันหายไป

กลับบ้านมีความสุข? มีความสุขมากๆ เหมือนได้เปิดโลกกว้าง ถือว่าเลือกไม่ผิดที่กลับบ้าน ถึงตอนเด็กๆจะอยู่กับสิ่งนี้มา แต่พอผ่านไป นิสัยเปลี่ยน ความคิดเปลี่ยน 10 ปีเราได้กลับมาที่นี่ เหมือนเราได้มองโลกที่กว้างขึ้น ได้มอง ได้ทำ ในสิ่งที่คนในวิชาชีพเราไม่ได้ทำ